เติมลมยางรถยนต์ เติมลมรถเก๋ง เติมลมยางรถกระบะ เท่าไหร่

วิธีเติมลมยางรถยนต์ ทั้งเติมลมรถเก๋งและเติมลมรถกระบะควรเติมเท่าไหร่ แล้ว psi คือ อะไร เกี่ยวกับการลมยางรถยนต์อย่างไร วิธีเติมลมยางรถยนต์ เช็คลมยางรถยนต์ให้ถูกต้องควรทำอย่างไร ไปดูกัน

CARS24
CARS24
| อ่าน 1 นาที

เคยสงสัยมั้ยว่า รถยนต์ที่เราใช้งานอยู่ทุกวันควรเติมลมยางรถยนต์กี่ PSI (ปอนด์ต่อนิ้ว) ถึงจะเหมาะสม แม้ลมยางจะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่หลายคนก็มักจะมองข้าม หากปล่อยให้แรงดันในยางมากหรือน้อยจนเกินไป อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของการเดินทางหรือแม้แต่ยางระเบิดได้อีกด้วย

เติมลมยางรถยนต์ เติมลมรถเก๋ง เติมลมรถกระบะ psi คือ เติมลมยางรถเก๋ง ลมยางรถเก๋ง เติมลมรถยนต์ ลมยางรถยนต์ รถเก๋งเติมลมเท่าไหร่ รถกระบะเติมลมเท่าไหร่

วิธีเติมลมยางรถยนต์ เติมเท่าไหร่

ว่าแต่ รถเก๋งเติมลมเท่าไหร่ รถกระบะเติมลมเท่าไหร่ เติมยางรถยนต์เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกับรถของคุณ Cars24 มีเทคนิคง่าย ๆ ในการเติมลมยางมาแนะนำ ทั้งยังมีวิธีง่าย ๆ ในการเติมลมยางที่หลายคนควรรู้

ตารางเติมลมยางรถยนต์

ประเภทรถยนต์

ปริมาณเติมลมยาง

รถเก๋งขนาดเล็ก 25-32 ปอนด์
รถเก๋งขนาดกลาง 30-35 ปอนด์
รถกระบะที่ไม่ได้บรรทุกของ 38-40 ปอนด์
รถตู้ 7 - 10 ที่นั่ง 43 - 55 ปอนด์

เติมลมรถเก๋งขนาดเล็ก

  • ควรเติมลมยางประมาณ 25-32 PSI (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุกและความเร็วการขับขี่)

เติมลมรถเก๋งขนาดกลาง

  • ควรเติมลมยางประมาณ 30-35 PSI (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุกและความเร็วการขับขี่)

เติมลมยางรถกระบะ

  • ควรเติมลมยางประมาณ 38-40 PSI (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก และความเร็วการขับขี่)

นอกจากนี้ เรายังมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับข้อมูลแรงดันลมยางในรถยนต์ที่เราใช้ เป็นข้อมูลพื้นฐานที่หลายคนควรทราบ ถึงเราจะไม่ได้เติมลมยางด้วยตัวเอง อย่างน้อยที่สุดก็เป็นข้อมูลให้เด็กปั้ม หรือคนที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้เราได้รับรู้ข้อมูลเบื้องต้น

ค่า PSI คือ อะไร ช่วยเรื่องเติมลมยางอย่างไร

ตามปกติแล้ว แรงดันลมยางรถยนต์สามารถดูได้ที่ข้างประตูคนขับ โดยจะมีสติกเกอร์แปะไว้เพื่อบอกว่ารถที่เราใช้ ต้องเติมลมยางเท่าไรจึงจะเหมาะสมในระดับปกติ โดยปกติประเทศไทยจะใช้หน่วยวัด PSI หรือ Pound per Square inche (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) ในการให้แรงดันลมยาง และเป็นหน่วยมาตรฐานในเครื่องปั้มลมทั้งหมดทั่วประเทศ

นอกจากนี้ เรายังสามารถศึกษาการเติมลมยางรถยนต์ที่เหมาะสมได้จากคู่มือประจำรถด้วยในหัวข้อ “การดูแลรักษา” ซึ่งก็จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกับสติ๊กเกอร์ข้างรถที่แปะไว้นั่นเอง

เติมลมยางรถยนต์ ควรเติมบ่อยแค่ไหน

เติมลมยางรถยนต์ เติมลมรถเก๋ง เติมลมรถกระบะ psi คือ เติมลมยางรถเก๋ง ลมยางรถเก๋ง เติมลมรถยนต์ ลมยางรถยนต์ รถเก๋งเติมลมเท่าไหร่ รถกระบะเติมลมเท่าไหร่

ตามหลักแล้วเราควรเช็คลมยางและเติมลมยางรถเก๋งอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพราะโดยเฉลี่ยแล้วลมยางจะลดปริมาณลงประมาณ 2-3 PSI ในหนึ่งเดือน ถ้ารถของคุณเติมลมยางในปริมาณที่เหมาะสมและได้รับการตรวจเช็คอย่างสม้ำเสมอ จะช่วยลดการเสื่อมสภาพของยาง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย Cars24 มีข้อควรรู้ในการเติมยางรถยนต์มาแนะนำ

วิธีเติมลมยางรถยนต์ที่ถูกต้อง

·  เติมลมรถยนต์ขณะที่ยางเย็น เพราะการเติมลมยางขณะที่ยางมีอุณหภูมิสูงอาจให้เป็นผลไม่แม่นยำ เนื่องจากความร้อนจะทำให้อากาศขยายตัว หากคุณต้องการเติมลมยางขณะที่ยางยังร้อนอยู่ ควรเติมลมยางเพิ่มขึ้น 2 PSI เพื่อชดเชยความดันอากาศที่ขยายตัวภายในบาง

·  หากรถยนต์บรรทุกของที่มีน้ำหนักมาก หรือมีผู้โดยสารร่วมทริปมาก ควรเติมลมรถยนต์เพิ่มอีก 2-3 PSI

·  การเติมลมรถยนต์มากกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ นอกจากจะทำให้ดอกยางสึกเร็ว เสี่ยงต่อการลื่นไถลได้ง่าย ความนุ่มนวลในการขับขี่ลดลง และอายุการใช้งานของยางลดลงด้วย

เช็คลมยางรถยนต์ ดูอย่างไร

บ่อยครั้งที่หลายคนอาจละเลยการเติมลมยาง หรือบางคนก็ถึงขั้นวิตกกังวลจนเติมลมยางบ่อยจนเกินไป ทำให้ลมยางไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อการขับขี่ ความปลอดภัย และอัตราการเผาผลาญน้ำมันอีกด้วย  Cars24 มีวิธีสังเกตง่าย ๆ ว่า ‘ลมยางอ่อน’ หรือ ‘ลมยางแข็ง’ จนเกินไปมาฝาก

·  ลมยางรถยนต์อ่อนเกินไป

คุณจะรู้สึกถึงความนุ่มนวลของช่วงล่าง พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ ขับรถแล้วรู้สึกรถไม่ค่อยเกาะถนนเท่าที่ควร นั่นหมายความว่า เครื่องยนต์จะทำงานหนักกว่าปกติและเปลืองน้ำมันมากขึ้น ยิ่งถ้าคุณขับรถด้วยความเร็วจะมีอาการโยน ไม่นิ่ง หรือเจอกับพื้นถนนไม่เรียบก็จะรู้สึกโยนมากขึ้น หากรถของคุณลมยางอ่อนมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิด เพราะแก้มยางบิดตัวจนเกิดความร้อนทำให้แรงดันในลมยางขยายตัวนั่นเอง

·  ลมยางรถยนต์แข็งเกินไป

สังเกตง่าย ๆ ว่า การออกตัวรถจะทำได้ดีกว่าลมยางอ่อนก็จริง แต่ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนบนทางโค้งจะลดลง การเบรคกะทันหันอาจเพิ่มระยะทางมากขึ้น อีกทั้งการเติมลมยางแข็งเกินไปอาจทำให้รถเกิดแรงสั่นสะเทือนระหว่างขับขี่ หากขับขี่ด้วยความเร็วแล้วตกหลุมหรือเกิดแรงกระแทกรุนแรงขณะขับขี่อาจทำให้ยางระเบิดได้เช่นกัน

แรงดันลมยางรถยนต์ เรื่องควรรู้เมื่อเช็คลมยางรถยนต์

วิธีเติมลมยางรถยนต์มีอีกเรื่องที่สำคัญมาก ๆ คือลักษณะการใช้งานของเรา รถหลายรุ่นจะบอกค่า “แรงดันลมยาง”เป็นหลายค่าตามการใช้งานของตัวรถ เช่น เดินทางคนเดียว เดินทางหลายคน หรือเดินทางหลายคนพร้อมสัมภาระ ค่าในการเติมลมยางแบบนี้มักจะพบเห็นในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไป ทั้งรถเก๋งหรือรถอเนกประสงค์ SUV ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองไทย

อย่างไรก็ดี ใครที่เติมลมยางด้วยตัวเองอาจจะพบว่า ค่ามาตรฐานของปั้มลมจะเซทไว้ที่ 32 PSI เสมอ ที่จริงแล้วค่าดังกล่าวไม่ถูกต้อง และไม่เหมาะสมกับรถยนต์ทุกคันอย่างที่เข้าใจ เพราะการเติมแรงดันลมยางที่ถูกต้องควรเติมตามค่ามาตรฐานที่ทางผู้ผลิตรถยนต์แนะนำเท่านั้น เว้นในกรณีคุณแต่งรถเปลี่ยนยางที่อาจมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ายางที่ออกมาจากโรงงาน

ในกรณีดังกล่าว ให้คุณสอบถามทางร้านที่เปลี่ยนยางให้คุณว่าควรเติมลมยางเท่าไร และจำไว้ใช้เป็นค่ามาตรฐานใหม่ในการเติมยางรถยนต์ เนื่องจากรถของคุณมีการปรับแต่งมาจะใช้ค่าที่มาจากโรงงานไม่ได้ ยิ่งสำหรับใครที่ใช้รถยางบางแก้มเตี้ย การตรวจสอบลมยางควรหมั่นทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ เนื่องจากยางมีโอกาสได้รับความเสียหายได้ง่ายหากลมยางอ่อนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีเกิดขับตกหลุมกระแทกอย่างรุนแรงในระหว่างการขับขี่ อาจทำให้ยางแตกเสียหายที่แก้มได้ง่ายกว่ารถที่มียางแก้มสูง

สำหรับบรรดารถกระบะ โดยมากจะแบ่งเป็นค่าแรงดันลมยางตามน้ำหนักบรรทุกที่ใช้งานในกระบะหลัง เช่น

  • Half Load น้ำหนักบรรทุกครึ่งหนึ่งของที่รับน้ำหนัก
  • Full Load น้ำหนักบรรทุกเต็มพิกัด ที่รถจะรับได้

ในส่วนรถยนต์ประหยัดพลังงานอย่าง Eco Car บางรุ่นอาจจะมีค่าการเติมลมยางสำหรับโหมดการขับแบบประหยัดด้วย

เติมลมยางรถยนต์ผิด อาจส่งผลต่อความปลอดภัย

การเติมลมยางรถยนต์ไม่เหมาะสม หรือละเลยการตรวจเช็คลมยางอาจส่งผลเสียต่อความปลอดภัยในชีวิตได้เลย ผู้ขับขี่ควรเติมลมยางให้ถูกต้องตามค่าที่กำหนด เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น

·  แรงดันลมยางอ่อนเกินไป: เสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะที่มีการบรรทุกหนัก มีโอกาสสุ่มเสียงในการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากกว่า

·  แรงดันลมยางมากเกินไป: ยางตึงและแข็งกระด้าง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง และอาจลื่นไถลได้ในวันฝนตกหรือถนนลื่น

ไม่เพียงเท่านี้ รถที่ลมยางอ่อนมีแนวโน้มจะกินน้ำมันมากขึ้นเล็กน้อย เพราะลมยางที่หายไป 2-3 PSI อาจทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น 5-10% ในทันที

สำหรับใครที่มีปัญหาในเรื่องการเช็คลมยางเป็นประจำ จึงมีบริการ เติมลมยางไนโตรเจน ซึ่งแตกต่างจากการเติมลมยางทั่วไป ตรงอากาศที่เติมเข้าไปจะเป็นแก๊สไนโตรเจนล้วนๆ ทำให้เมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นระหว่างการขับขี่ ที่ยางจะเสียดทานกับถนนจะไม่มีการขยายตัวของอากาศเกิดขึ้น แถมโอกาสในการรั่วซึมของยางยังน้อยกว่าการเติมลมยางปกติที่มีความชื้นสัมพันทธ์ในอากาศเป็นตัวแปร ดังนั้น สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาการเติมลมยางไนโตรเจนสามารถช่วยคุณประหยัดเวลา และเพิ่มความมั่นใจได้พอสมควร

จะเห็นได้ว่าการ เติมลมยางรถยนต์ เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมากในการดูแลรักษารถในเบื้องต้น เพื่อให้รถพร้อมใช้งานอยู่เสมอและปลอดภัยในทุกเส้นทาง เราจึงไม่ควรมองข้ามและควรหมั่นตรวจเช็คลมยางเป็นประจำเพื่อความอุ่นใจนั่นเอง

สำหรับใครที่อยากซื้อ-ขาย-เทิร์น จบในที่เดียว CARS24 พร้อมให้บริการและมีรถมือสองให้เลือกกว่า 1,000 คัน จะเลือกซื้อหรือขายรถมือสองผ่านเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.02 028 7428 ติดต่อได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.

ซื้อรถยนต์มือสอง CARS24

เคยสงสัยมั้ยว่า รถยนต์ที่เราใช้งานอยู่ทุกวันควรเติมลมยางรถยนต์กี่ PSI (ปอนด์ต่อนิ้ว) ถึงจะเหมาะสม แม้ลมยางจะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่หลายคนก็มักจะมองข้าม หากปล่อยให้แรงดันในยางมากหรือน้อยจนเกินไป อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของการเดินทางหรือแม้แต่ยางระเบิดได้อีกด้วย

เติมลมยางรถยนต์ เติมลมรถเก๋ง เติมลมรถกระบะ psi คือ เติมลมยางรถเก๋ง ลมยางรถเก๋ง เติมลมรถยนต์ ลมยางรถยนต์ รถเก๋งเติมลมเท่าไหร่ รถกระบะเติมลมเท่าไหร่

วิธีเติมลมยางรถยนต์ เติมเท่าไหร่

ว่าแต่ รถเก๋งเติมลมเท่าไหร่ รถกระบะเติมลมเท่าไหร่ เติมยางรถยนต์เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกับรถของคุณ Cars24 มีเทคนิคง่าย ๆ ในการเติมลมยางมาแนะนำ ทั้งยังมีวิธีง่าย ๆ ในการเติมลมยางที่หลายคนควรรู้

ตารางเติมลมยางรถยนต์

ประเภทรถยนต์

ปริมาณเติมลมยาง

รถเก๋งขนาดเล็ก 25-32 ปอนด์
รถเก๋งขนาดกลาง 30-35 ปอนด์
รถกระบะที่ไม่ได้บรรทุกของ 38-40 ปอนด์
รถตู้ 7 - 10 ที่นั่ง 43 - 55 ปอนด์

เติมลมรถเก๋งขนาดเล็ก

  • ควรเติมลมยางประมาณ 25-32 PSI (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุกและความเร็วการขับขี่)

เติมลมรถเก๋งขนาดกลาง

  • ควรเติมลมยางประมาณ 30-35 PSI (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุกและความเร็วการขับขี่)

เติมลมยางรถกระบะ

  • ควรเติมลมยางประมาณ 38-40 PSI (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุก และความเร็วการขับขี่)

นอกจากนี้ เรายังมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับข้อมูลแรงดันลมยางในรถยนต์ที่เราใช้ เป็นข้อมูลพื้นฐานที่หลายคนควรทราบ ถึงเราจะไม่ได้เติมลมยางด้วยตัวเอง อย่างน้อยที่สุดก็เป็นข้อมูลให้เด็กปั้ม หรือคนที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้เราได้รับรู้ข้อมูลเบื้องต้น

ค่า PSI คือ อะไร ช่วยเรื่องเติมลมยางอย่างไร

ตามปกติแล้ว แรงดันลมยางรถยนต์สามารถดูได้ที่ข้างประตูคนขับ โดยจะมีสติกเกอร์แปะไว้เพื่อบอกว่ารถที่เราใช้ ต้องเติมลมยางเท่าไรจึงจะเหมาะสมในระดับปกติ โดยปกติประเทศไทยจะใช้หน่วยวัด PSI หรือ Pound per Square inche (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) ในการให้แรงดันลมยาง และเป็นหน่วยมาตรฐานในเครื่องปั้มลมทั้งหมดทั่วประเทศ

นอกจากนี้ เรายังสามารถศึกษาการเติมลมยางรถยนต์ที่เหมาะสมได้จากคู่มือประจำรถด้วยในหัวข้อ “การดูแลรักษา” ซึ่งก็จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกับสติ๊กเกอร์ข้างรถที่แปะไว้นั่นเอง

เติมลมยางรถยนต์ ควรเติมบ่อยแค่ไหน

เติมลมยางรถยนต์ เติมลมรถเก๋ง เติมลมรถกระบะ psi คือ เติมลมยางรถเก๋ง ลมยางรถเก๋ง เติมลมรถยนต์ ลมยางรถยนต์ รถเก๋งเติมลมเท่าไหร่ รถกระบะเติมลมเท่าไหร่

ตามหลักแล้วเราควรเช็คลมยางและเติมลมยางรถเก๋งอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพราะโดยเฉลี่ยแล้วลมยางจะลดปริมาณลงประมาณ 2-3 PSI ในหนึ่งเดือน ถ้ารถของคุณเติมลมยางในปริมาณที่เหมาะสมและได้รับการตรวจเช็คอย่างสม้ำเสมอ จะช่วยลดการเสื่อมสภาพของยาง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย Cars24 มีข้อควรรู้ในการเติมยางรถยนต์มาแนะนำ

วิธีเติมลมยางรถยนต์ที่ถูกต้อง

·  เติมลมรถยนต์ขณะที่ยางเย็น เพราะการเติมลมยางขณะที่ยางมีอุณหภูมิสูงอาจให้เป็นผลไม่แม่นยำ เนื่องจากความร้อนจะทำให้อากาศขยายตัว หากคุณต้องการเติมลมยางขณะที่ยางยังร้อนอยู่ ควรเติมลมยางเพิ่มขึ้น 2 PSI เพื่อชดเชยความดันอากาศที่ขยายตัวภายในบาง

·  หากรถยนต์บรรทุกของที่มีน้ำหนักมาก หรือมีผู้โดยสารร่วมทริปมาก ควรเติมลมรถยนต์เพิ่มอีก 2-3 PSI

·  การเติมลมรถยนต์มากกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ นอกจากจะทำให้ดอกยางสึกเร็ว เสี่ยงต่อการลื่นไถลได้ง่าย ความนุ่มนวลในการขับขี่ลดลง และอายุการใช้งานของยางลดลงด้วย

เช็คลมยางรถยนต์ ดูอย่างไร

บ่อยครั้งที่หลายคนอาจละเลยการเติมลมยาง หรือบางคนก็ถึงขั้นวิตกกังวลจนเติมลมยางบ่อยจนเกินไป ทำให้ลมยางไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อการขับขี่ ความปลอดภัย และอัตราการเผาผลาญน้ำมันอีกด้วย  Cars24 มีวิธีสังเกตง่าย ๆ ว่า ‘ลมยางอ่อน’ หรือ ‘ลมยางแข็ง’ จนเกินไปมาฝาก

·  ลมยางรถยนต์อ่อนเกินไป

คุณจะรู้สึกถึงความนุ่มนวลของช่วงล่าง พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ ขับรถแล้วรู้สึกรถไม่ค่อยเกาะถนนเท่าที่ควร นั่นหมายความว่า เครื่องยนต์จะทำงานหนักกว่าปกติและเปลืองน้ำมันมากขึ้น ยิ่งถ้าคุณขับรถด้วยความเร็วจะมีอาการโยน ไม่นิ่ง หรือเจอกับพื้นถนนไม่เรียบก็จะรู้สึกโยนมากขึ้น หากรถของคุณลมยางอ่อนมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิด เพราะแก้มยางบิดตัวจนเกิดความร้อนทำให้แรงดันในลมยางขยายตัวนั่นเอง

·  ลมยางรถยนต์แข็งเกินไป

สังเกตง่าย ๆ ว่า การออกตัวรถจะทำได้ดีกว่าลมยางอ่อนก็จริง แต่ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนบนทางโค้งจะลดลง การเบรคกะทันหันอาจเพิ่มระยะทางมากขึ้น อีกทั้งการเติมลมยางแข็งเกินไปอาจทำให้รถเกิดแรงสั่นสะเทือนระหว่างขับขี่ หากขับขี่ด้วยความเร็วแล้วตกหลุมหรือเกิดแรงกระแทกรุนแรงขณะขับขี่อาจทำให้ยางระเบิดได้เช่นกัน

แรงดันลมยางรถยนต์ เรื่องควรรู้เมื่อเช็คลมยางรถยนต์

วิธีเติมลมยางรถยนต์มีอีกเรื่องที่สำคัญมาก ๆ คือลักษณะการใช้งานของเรา รถหลายรุ่นจะบอกค่า “แรงดันลมยาง”เป็นหลายค่าตามการใช้งานของตัวรถ เช่น เดินทางคนเดียว เดินทางหลายคน หรือเดินทางหลายคนพร้อมสัมภาระ ค่าในการเติมลมยางแบบนี้มักจะพบเห็นในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไป ทั้งรถเก๋งหรือรถอเนกประสงค์ SUV ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองไทย

อย่างไรก็ดี ใครที่เติมลมยางด้วยตัวเองอาจจะพบว่า ค่ามาตรฐานของปั้มลมจะเซทไว้ที่ 32 PSI เสมอ ที่จริงแล้วค่าดังกล่าวไม่ถูกต้อง และไม่เหมาะสมกับรถยนต์ทุกคันอย่างที่เข้าใจ เพราะการเติมแรงดันลมยางที่ถูกต้องควรเติมตามค่ามาตรฐานที่ทางผู้ผลิตรถยนต์แนะนำเท่านั้น เว้นในกรณีคุณแต่งรถเปลี่ยนยางที่อาจมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ายางที่ออกมาจากโรงงาน

ในกรณีดังกล่าว ให้คุณสอบถามทางร้านที่เปลี่ยนยางให้คุณว่าควรเติมลมยางเท่าไร และจำไว้ใช้เป็นค่ามาตรฐานใหม่ในการเติมยางรถยนต์ เนื่องจากรถของคุณมีการปรับแต่งมาจะใช้ค่าที่มาจากโรงงานไม่ได้ ยิ่งสำหรับใครที่ใช้รถยางบางแก้มเตี้ย การตรวจสอบลมยางควรหมั่นทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ เนื่องจากยางมีโอกาสได้รับความเสียหายได้ง่ายหากลมยางอ่อนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีเกิดขับตกหลุมกระแทกอย่างรุนแรงในระหว่างการขับขี่ อาจทำให้ยางแตกเสียหายที่แก้มได้ง่ายกว่ารถที่มียางแก้มสูง

สำหรับบรรดารถกระบะ โดยมากจะแบ่งเป็นค่าแรงดันลมยางตามน้ำหนักบรรทุกที่ใช้งานในกระบะหลัง เช่น

  • Half Load น้ำหนักบรรทุกครึ่งหนึ่งของที่รับน้ำหนัก
  • Full Load น้ำหนักบรรทุกเต็มพิกัด ที่รถจะรับได้

ในส่วนรถยนต์ประหยัดพลังงานอย่าง Eco Car บางรุ่นอาจจะมีค่าการเติมลมยางสำหรับโหมดการขับแบบประหยัดด้วย

เติมลมยางรถยนต์ผิด อาจส่งผลต่อความปลอดภัย

การเติมลมยางรถยนต์ไม่เหมาะสม หรือละเลยการตรวจเช็คลมยางอาจส่งผลเสียต่อความปลอดภัยในชีวิตได้เลย ผู้ขับขี่ควรเติมลมยางให้ถูกต้องตามค่าที่กำหนด เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น

·  แรงดันลมยางอ่อนเกินไป: เสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะที่มีการบรรทุกหนัก มีโอกาสสุ่มเสียงในการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากกว่า

·  แรงดันลมยางมากเกินไป: ยางตึงและแข็งกระด้าง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง และอาจลื่นไถลได้ในวันฝนตกหรือถนนลื่น

ไม่เพียงเท่านี้ รถที่ลมยางอ่อนมีแนวโน้มจะกินน้ำมันมากขึ้นเล็กน้อย เพราะลมยางที่หายไป 2-3 PSI อาจทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น 5-10% ในทันที

สำหรับใครที่มีปัญหาในเรื่องการเช็คลมยางเป็นประจำ จึงมีบริการ เติมลมยางไนโตรเจน ซึ่งแตกต่างจากการเติมลมยางทั่วไป ตรงอากาศที่เติมเข้าไปจะเป็นแก๊สไนโตรเจนล้วนๆ ทำให้เมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นระหว่างการขับขี่ ที่ยางจะเสียดทานกับถนนจะไม่มีการขยายตัวของอากาศเกิดขึ้น แถมโอกาสในการรั่วซึมของยางยังน้อยกว่าการเติมลมยางปกติที่มีความชื้นสัมพันทธ์ในอากาศเป็นตัวแปร ดังนั้น สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาการเติมลมยางไนโตรเจนสามารถช่วยคุณประหยัดเวลา และเพิ่มความมั่นใจได้พอสมควร

จะเห็นได้ว่าการ เติมลมยางรถยนต์ เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมากในการดูแลรักษารถในเบื้องต้น เพื่อให้รถพร้อมใช้งานอยู่เสมอและปลอดภัยในทุกเส้นทาง เราจึงไม่ควรมองข้ามและควรหมั่นตรวจเช็คลมยางเป็นประจำเพื่อความอุ่นใจนั่นเอง

สำหรับใครที่อยากซื้อ-ขาย-เทิร์น จบในที่เดียว CARS24 พร้อมให้บริการและมีรถมือสองให้เลือกกว่า 1,000 คัน จะเลือกซื้อหรือขายรถมือสองผ่านเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.02 028 7428 ติดต่อได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.

ซื้อรถยนต์มือสอง CARS24
อ่านเพิ่มเติม