รีวิว BMW X1 ปี 2019 รถมือสองสภาพสวยเหมือนป้ายแดง ราคาเร้าใจ พร้อม BSI เหลือๆ เกินคุ้ม!

CARS24
CARS24
| อ่าน 2 นาที

หนึ่งในรถที่หลายคนใฝ่ฝันนั่นคือ BMW แต่ด้วยราคาค่าตัวรถใหม่อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกต้องยอมถอยออกมาก่อน เพื่อรอให้กลายเป็นรถมือสอง ราคาจะได้ต่ำลงมาหน่อย อีกทั้ง BMW เองมีการการันตีที่เรียกว่า BSI (BMW Service Inclusive) เป็นแพคเกจบริการหลังการขายเกี่ยวกับการเซอร์วิสทั้งหมด ที่อย่างน้อยรถมือสองปี 2019 จะยังเหลือให้อุ่นใจอีกอย่างน้อย 1-2 ปี ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มค่า เพราะส่วนใหญ่แล้ว BSI จะดูแลค่าใช้จ่ายนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

Cars24 Score: 4.0/5

“โดยรวมถือว่าเป็นรถที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ และมีความจัดจ้านตามสไตล์ Sports Activity Vehicle จะติดอยู่นิดเดียวคือเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองที่อยู่ระดับกลางๆ แต่ถ้ากดหนักๆ ถือว่ากินน้ำมันอยู่พอสมควร ด้วยขุมพลังที่พร้อมกระโจนเต็มที่ทำให้การขับบนทางยาวๆ อย่างการออกต่างจังหวัดจะใช้คันเร่งค่อนข้างมาก ใช้อัตราเร่งบ่อย การขับสนุก และความแรง มักจะมาพร้อมอัตราสิ้นเปลืองที่ตัวเลขไม่สวยเสมอ

“ถ้าขับใช้งานทั่วไป ใช้อัตราเร่งในช่วงแซงบ้าง จะยังพอทำให้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นมาหน่อย แต่เอาเป็นว่าเมื่อเป็นราคามือสองถือว่าราคาลดลงจากป้ายแดงค่อนข้างมาก แถมบางคันยังมี BSI เหลืออยู่ 1-2 ปีอีกด้วย เสริมความสบายใจหลังการขายได้ดีพอสมควร ถือว่า BMW X1 รุ่นปี 2019 เป็นอีกรุ่นที่น่าเป็นเจ้าของเหมือนกันนะ” กูรูของ CARS24

จุดเด่น

จุดด้อย


  • ตัวถังขนาดคอมแพ็คไม่ใหญ่จนเกินไป มีความคล่องตัว

  • ระบบช่วงล่างโดดเด่นเรื่องการยึดเกาะ และเข้าโค้งได้มั่นคง

  • ขุมพลังมีตัวเลือกทั้งแบบเบนซินและดีเซล

  • BSI ที่ดูแลค่าใช้จ่ายได้สบายใจ (ถ้ายังเหลือ)

  • ระบบนำทางรุ่นใหม่ทำงานบนหน้าจอ Control Display

  • มี BMW Head-Up Display แสดงข้อมูลบนบานกระจก

  • ระบบ Parking Assistant ช่วยหาช่องจอดและจอดแบบอัตโนมัติ





  • อัตราสิ้นเปลืองจากการใช้งานจริง เครื่องยนต์เบนซิน ประมาณ 12-14 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล ประมาณ 16-17 กม./ลิตร ประหยัดกลางๆ 

  • ราคาเปิดตัวค่อนข้างสูง

  • ช่วงออกตัวจะไม่ค่อยกระฉับกระเฉง

Price & Option

ราคาป้ายแดงปัจจุบัน ปี 2022

ราคาป้ายแดง ปี 2016 

ราคามือสอง ปี 2019

รุ่น  xline 2,329,000 บาท

รุ่น M Sport 2,529,000 บาท

รุ่น xLine 2,290,000 บาท

รุ่น M Sport 2,590,000 บาท

ประมาณ 1,200,000-2,000,000 บาท

สำหรับ BMW X1 เป็นรถในกลุ่ม Sports Activity Vehicle เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2016 มีการปรับโฉมจากรุ่นแรกอยู่พอสมควร ดูมีความลงตัวและยังดูทันสมัยแม้ในปัจจุบัน ตัวถังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง มาพร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ที่สว่างเฉียบคมมากขึ้น เสริมด้วยไฟตัดหมอก LED ดูดุดันด้วยช่องดักลมขนาดใหญ่ และกระจังหน้ารูปทรงไตคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW ที่ยังเป็นดีไซน์เดิม คงยังน่ามองไม่แพ้ดีไซน์ใหม่ที่ดูเฉียบคมมากกว่าและมีขนาดที่ใหญ่กว่าเท่านั้นเอง

โดยจะมีรุ่นย่อย 2 รุ่นคือ xLine และ M Sport ในรุ่น xLine จะมาพร้อมกับล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ล้อลาย Y-Spoke แบบสลับสี ราวหลังคาอลูมิเนียมแบบด้าน ภายในใช้พวงมาลัยหนังแท้แบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยลายไม้ Oak Grain แบบด้าน เสริมด้วยแถบโครเมียม

ส่วนในรุ่น M Sport สำหรับคนที่ชอบสไตล์ร้อนแรง ปราดเปรียว ช่วงล่างมีการปรับปรุงให้ต่างจากรุ่นปกติ เสริมด้วยภายนอกที่เป็นวัสดุสีดำเงา รวมทั้งชุดแต่ง M Aerodynamics ที่ทำให้ตัวรถดูลู่ลมและโดดเด่นมากขึ้น ด้านภายในห้องโดยสารจะดูหรูหรา และให้ความสปอร์ตมากกว่า มาพร้อมพวงมาลัยหนังแท้แบบ M Sport เบาะนั่งแบบสปอร์ต

ภายในห้องโดยสารออกแบบให้สีของคอนโซลมีการตัดกันอย่างมีสไตล์เน้นสีดำตัดสีเงินด้าน เสริมด้วยหน้าจอ Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว ในรุ่น xLine และขนาด 10.25 นิ้ว ในรุ่น M Sport มาพร้อมระบบ iDrive และระบบสั่งการด้วยเสียง

เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 ทางเลือก คือ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo 136 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เป็นแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

Option ที่น่าสนใจใน BMW X1 เป็นเรื่องของเทคโนโลยีทั้งหมด แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ขอเล่าให้ทราบว่า BMW X1 มีการเปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์ม UKL ที่ใช้ร่วมกับ MINI และ BMW 2Series GranTourer ทำให้เป็นรถเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนล้อหลังมาเป็นล้อหน้า

แต่ยังขับสนุกได้แบบขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนเดิม ตัวรถถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาลง จุดศูนย์ถ่วงต่ำ กระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ตัวรถมีฐานล้อกว้าง หน้ารถสั้น ทำให้ขับได้สนุกและลุยในเส้นทางออฟโรดได้ดีขึ้นอีกด้วย

ด้านเทคโนโลยีมาพร้อมกับระบบพวงมาลัย Variable Sport Steering ช่วยให้การบังคับเลี้ยวในความเร็วต่ำได้ง่าย น้ำหนักเบา มีความหนืดน้อยลง ส่วนในความเร็วสูงมีความหนืดมากขึ้น มั่นใจในการใช้ความเร็วสูงได้มากขึ้น, ระบบ Dynamic Damper Control ที่เป็นการควบคุม Shock Up ด้วยไฟฟ้า ช่วยปรับความนุ่มนวลของช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวถนน

พร้อมระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น Driving Assistant Plus พร้อมระบบ Traffic Jam Assistant ที่ช่วยหยุดรถในความเร็วต่ำได้เมื่อเซนเซอร์จับได้ว่ามีโอกาสที่รถจะเกิดอุบัติเหตุ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับเมื่อขับทับเลนหรือเสี่ยงต่อการชนนั่นเอง

ประสบการณ์การขับรถ BMW X1 จากกูรูของ CARS24

  • ต้องยอมรับว่าการที่ BMW X1 เปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ยังคงทำให้การขับมีความสนุกไม่ต่างจากการขับเคลื่อนแบบล้อหลัง อารมณ์การขับมีความนิ่ง แน่น และนุ่ม ใช้งานในตัวเมืองมีความคล่องตัว เพราะด้วยขนาดของตัวถังไม่ได้ใหญ่มาก
  • พื้นที่ห้องโดยสารค่อนข้างกว้าง นั่งสบาย ไม่อึดอัด การขับใช้งานทางไกลมีความเหมาะสมมาก เพราะการออกแบบเบาะนั่งช่วยให้ลดอาการเมื่อยล้าขณะขับทางไกลได้ดี
  • อัตราเร่งเมื่อทำความเร็วผ่าน 60 กม./ชม. ทำได้ดีมาก ความเร็วต้นอาจจะนิ่งๆ แต่พอความเร็วกลางถึงปลายทำได้กระฉับกระเฉง ฉับไวมาก โดยเฉพาะการกระแทกคันเร่งเพื่อสร้างอัตราเร่งแซงในจังหวะเร่งด่วนทำได้ทันใจมาก
  • ด้านการขับบนทางแบบออฟโรด ที่หลายคนอาจจะไม่ได้ขับแบบนั้น ระบบช่วยเหลือที่ให้มาทำให้สามารถใช้ความเร็วบนทางฝุ่นได้สนุก ควบคุมได้และมีความมั่นใจ ระบบช่วยเหลือเข้ามาช่วยลดอาการลื่นไถลได้อย่างรวดเร็ว เป็นรถที่เหมาะทั้งบู๊และบุ๋น

สายแต่งรถต้องรัก BMW X1

สำหรับใครที่กำลังมองหารถ BMW ที่จะเอาไว้แต่งสวยๆ อยากขอแนะนำรถในตระกูล 3Series หรือ ซีรีย์ 3 เพราะถือว่าเป็นรถที่มีความลงตัวในการตกแต่งเสริมหล่อมากที่สุด

ถ้าย้อนอดีตกลับไปจะมีในรุ่น BMW 318i ตัวถังรหัส E36 ฉายา ขุนแผนเยอรมัน หรือบางคนเรียกว่าโฉมนกแก้ว ที่มักจะนำมาตกแต่งหลากหลายสไตล์ แต่ถ้าเน้นการแต่งตามแบบดั้งเดิม จะใช้ชุดแต่ง M Performance แท้จาก BMW

ถ้าเป็นสำนักแต่งอื่นจะเป็นของ Alpina ที่เป็นสำนักแต่งคู่บุญของ BMW มาแต่อ้อนแต่ออก ซึ่งการแต่งรถของ BMW จะมีสเต็ปการแต่งแบบแรกคือ

  1. การปรับจูนเครื่องยนต์และระบบช่วงล่าง ที่ส่วนใหญ่จะใช้สำนักแต่ง BMW M แท้ ที่จะใช้เครื่องยนต์ M ที่แรงกว่าปกติ และมีราคาสูงมาก
  2. สองคือการแต่งบอดี้ ซึ่งมีตัวเลือกการแต่งแบบ M Performance Parts เป็นชุดแต่งบอดี้แท้จาก BMW ซึ่งจะลงตัวและใช้งานได้จริง มีการรับประกันชิ้นส่วน และไม่รบกวนเอกลักษณ์ดั้งเดิมของ BMW

หรือหาจะหาชุดแต่งจากสำนักแต่งอื่นๆ ในบ้านเรา มีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และสไตล์ของแต่ละคน ถ้าไม่อยากซื้อ Series เก่ามาแต่ง ขอแนะนำรุ่นที่ใหม่ขึ้นและอยู่ในคลังของ Cars24 อย่าง BMW 330E, 320D มีทั้งรุ่นปี 2016 -2019 ซึ่งถ้านำมาตกแต่งเพิ่มเติม รับรองว่าสะดุดตาอย่างแน่นอน แถมราคายังอยู่ในช่วง 1.3 - 1.6 ล้านบาท เตรียมงบประมาณเอาไว้ตกแต่งอีกสัก 2 แสนบาท รับรองว่าสวยได้อย่างใจ และโดดเด่นตามสไตล์ของตัวเองอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ Cars24 ยังมีรถมือสองคุณภาพดี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกอีกหลากหลายรุ่น พร้อมการรับประกัน และแคมเปญการผ่อนที่รับรองว่าคุ้มค่า คุ้มราคาอย่างแน่นอน

หนึ่งในรถที่หลายคนใฝ่ฝันนั่นคือ BMW แต่ด้วยราคาค่าตัวรถใหม่อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกต้องยอมถอยออกมาก่อน เพื่อรอให้กลายเป็นรถมือสอง ราคาจะได้ต่ำลงมาหน่อย อีกทั้ง BMW เองมีการการันตีที่เรียกว่า BSI (BMW Service Inclusive) เป็นแพคเกจบริการหลังการขายเกี่ยวกับการเซอร์วิสทั้งหมด ที่อย่างน้อยรถมือสองปี 2019 จะยังเหลือให้อุ่นใจอีกอย่างน้อย 1-2 ปี ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มค่า เพราะส่วนใหญ่แล้ว BSI จะดูแลค่าใช้จ่ายนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร

Cars24 Score: 4.0/5

“โดยรวมถือว่าเป็นรถที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ และมีความจัดจ้านตามสไตล์ Sports Activity Vehicle จะติดอยู่นิดเดียวคือเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองที่อยู่ระดับกลางๆ แต่ถ้ากดหนักๆ ถือว่ากินน้ำมันอยู่พอสมควร ด้วยขุมพลังที่พร้อมกระโจนเต็มที่ทำให้การขับบนทางยาวๆ อย่างการออกต่างจังหวัดจะใช้คันเร่งค่อนข้างมาก ใช้อัตราเร่งบ่อย การขับสนุก และความแรง มักจะมาพร้อมอัตราสิ้นเปลืองที่ตัวเลขไม่สวยเสมอ

“ถ้าขับใช้งานทั่วไป ใช้อัตราเร่งในช่วงแซงบ้าง จะยังพอทำให้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นมาหน่อย แต่เอาเป็นว่าเมื่อเป็นราคามือสองถือว่าราคาลดลงจากป้ายแดงค่อนข้างมาก แถมบางคันยังมี BSI เหลืออยู่ 1-2 ปีอีกด้วย เสริมความสบายใจหลังการขายได้ดีพอสมควร ถือว่า BMW X1 รุ่นปี 2019 เป็นอีกรุ่นที่น่าเป็นเจ้าของเหมือนกันนะ” กูรูของ CARS24

จุดเด่น

จุดด้อย


  • ตัวถังขนาดคอมแพ็คไม่ใหญ่จนเกินไป มีความคล่องตัว

  • ระบบช่วงล่างโดดเด่นเรื่องการยึดเกาะ และเข้าโค้งได้มั่นคง

  • ขุมพลังมีตัวเลือกทั้งแบบเบนซินและดีเซล

  • BSI ที่ดูแลค่าใช้จ่ายได้สบายใจ (ถ้ายังเหลือ)

  • ระบบนำทางรุ่นใหม่ทำงานบนหน้าจอ Control Display

  • มี BMW Head-Up Display แสดงข้อมูลบนบานกระจก

  • ระบบ Parking Assistant ช่วยหาช่องจอดและจอดแบบอัตโนมัติ





  • อัตราสิ้นเปลืองจากการใช้งานจริง เครื่องยนต์เบนซิน ประมาณ 12-14 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล ประมาณ 16-17 กม./ลิตร ประหยัดกลางๆ 

  • ราคาเปิดตัวค่อนข้างสูง

  • ช่วงออกตัวจะไม่ค่อยกระฉับกระเฉง

Price & Option

ราคาป้ายแดงปัจจุบัน ปี 2022

ราคาป้ายแดง ปี 2016 

ราคามือสอง ปี 2019

รุ่น  xline 2,329,000 บาท

รุ่น M Sport 2,529,000 บาท

รุ่น xLine 2,290,000 บาท

รุ่น M Sport 2,590,000 บาท

ประมาณ 1,200,000-2,000,000 บาท

สำหรับ BMW X1 เป็นรถในกลุ่ม Sports Activity Vehicle เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2016 มีการปรับโฉมจากรุ่นแรกอยู่พอสมควร ดูมีความลงตัวและยังดูทันสมัยแม้ในปัจจุบัน ตัวถังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง มาพร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ที่สว่างเฉียบคมมากขึ้น เสริมด้วยไฟตัดหมอก LED ดูดุดันด้วยช่องดักลมขนาดใหญ่ และกระจังหน้ารูปทรงไตคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW ที่ยังเป็นดีไซน์เดิม คงยังน่ามองไม่แพ้ดีไซน์ใหม่ที่ดูเฉียบคมมากกว่าและมีขนาดที่ใหญ่กว่าเท่านั้นเอง

โดยจะมีรุ่นย่อย 2 รุ่นคือ xLine และ M Sport ในรุ่น xLine จะมาพร้อมกับล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ล้อลาย Y-Spoke แบบสลับสี ราวหลังคาอลูมิเนียมแบบด้าน ภายในใช้พวงมาลัยหนังแท้แบบสปอร์ต ตกแต่งด้วยลายไม้ Oak Grain แบบด้าน เสริมด้วยแถบโครเมียม

ส่วนในรุ่น M Sport สำหรับคนที่ชอบสไตล์ร้อนแรง ปราดเปรียว ช่วงล่างมีการปรับปรุงให้ต่างจากรุ่นปกติ เสริมด้วยภายนอกที่เป็นวัสดุสีดำเงา รวมทั้งชุดแต่ง M Aerodynamics ที่ทำให้ตัวรถดูลู่ลมและโดดเด่นมากขึ้น ด้านภายในห้องโดยสารจะดูหรูหรา และให้ความสปอร์ตมากกว่า มาพร้อมพวงมาลัยหนังแท้แบบ M Sport เบาะนั่งแบบสปอร์ต

ภายในห้องโดยสารออกแบบให้สีของคอนโซลมีการตัดกันอย่างมีสไตล์เน้นสีดำตัดสีเงินด้าน เสริมด้วยหน้าจอ Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว ในรุ่น xLine และขนาด 10.25 นิ้ว ในรุ่น M Sport มาพร้อมระบบ iDrive และระบบสั่งการด้วยเสียง

เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 ทางเลือก คือ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo 136 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เป็นแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

Option ที่น่าสนใจใน BMW X1 เป็นเรื่องของเทคโนโลยีทั้งหมด แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ขอเล่าให้ทราบว่า BMW X1 มีการเปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์ม UKL ที่ใช้ร่วมกับ MINI และ BMW 2Series GranTourer ทำให้เป็นรถเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนล้อหลังมาเป็นล้อหน้า

แต่ยังขับสนุกได้แบบขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนเดิม ตัวรถถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาลง จุดศูนย์ถ่วงต่ำ กระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ตัวรถมีฐานล้อกว้าง หน้ารถสั้น ทำให้ขับได้สนุกและลุยในเส้นทางออฟโรดได้ดีขึ้นอีกด้วย

ด้านเทคโนโลยีมาพร้อมกับระบบพวงมาลัย Variable Sport Steering ช่วยให้การบังคับเลี้ยวในความเร็วต่ำได้ง่าย น้ำหนักเบา มีความหนืดน้อยลง ส่วนในความเร็วสูงมีความหนืดมากขึ้น มั่นใจในการใช้ความเร็วสูงได้มากขึ้น, ระบบ Dynamic Damper Control ที่เป็นการควบคุม Shock Up ด้วยไฟฟ้า ช่วยปรับความนุ่มนวลของช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวถนน

พร้อมระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น Driving Assistant Plus พร้อมระบบ Traffic Jam Assistant ที่ช่วยหยุดรถในความเร็วต่ำได้เมื่อเซนเซอร์จับได้ว่ามีโอกาสที่รถจะเกิดอุบัติเหตุ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับเมื่อขับทับเลนหรือเสี่ยงต่อการชนนั่นเอง

ประสบการณ์การขับรถ BMW X1 จากกูรูของ CARS24

  • ต้องยอมรับว่าการที่ BMW X1 เปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ยังคงทำให้การขับมีความสนุกไม่ต่างจากการขับเคลื่อนแบบล้อหลัง อารมณ์การขับมีความนิ่ง แน่น และนุ่ม ใช้งานในตัวเมืองมีความคล่องตัว เพราะด้วยขนาดของตัวถังไม่ได้ใหญ่มาก
  • พื้นที่ห้องโดยสารค่อนข้างกว้าง นั่งสบาย ไม่อึดอัด การขับใช้งานทางไกลมีความเหมาะสมมาก เพราะการออกแบบเบาะนั่งช่วยให้ลดอาการเมื่อยล้าขณะขับทางไกลได้ดี
  • อัตราเร่งเมื่อทำความเร็วผ่าน 60 กม./ชม. ทำได้ดีมาก ความเร็วต้นอาจจะนิ่งๆ แต่พอความเร็วกลางถึงปลายทำได้กระฉับกระเฉง ฉับไวมาก โดยเฉพาะการกระแทกคันเร่งเพื่อสร้างอัตราเร่งแซงในจังหวะเร่งด่วนทำได้ทันใจมาก
  • ด้านการขับบนทางแบบออฟโรด ที่หลายคนอาจจะไม่ได้ขับแบบนั้น ระบบช่วยเหลือที่ให้มาทำให้สามารถใช้ความเร็วบนทางฝุ่นได้สนุก ควบคุมได้และมีความมั่นใจ ระบบช่วยเหลือเข้ามาช่วยลดอาการลื่นไถลได้อย่างรวดเร็ว เป็นรถที่เหมาะทั้งบู๊และบุ๋น

สายแต่งรถต้องรัก BMW X1

สำหรับใครที่กำลังมองหารถ BMW ที่จะเอาไว้แต่งสวยๆ อยากขอแนะนำรถในตระกูล 3Series หรือ ซีรีย์ 3 เพราะถือว่าเป็นรถที่มีความลงตัวในการตกแต่งเสริมหล่อมากที่สุด

ถ้าย้อนอดีตกลับไปจะมีในรุ่น BMW 318i ตัวถังรหัส E36 ฉายา ขุนแผนเยอรมัน หรือบางคนเรียกว่าโฉมนกแก้ว ที่มักจะนำมาตกแต่งหลากหลายสไตล์ แต่ถ้าเน้นการแต่งตามแบบดั้งเดิม จะใช้ชุดแต่ง M Performance แท้จาก BMW

ถ้าเป็นสำนักแต่งอื่นจะเป็นของ Alpina ที่เป็นสำนักแต่งคู่บุญของ BMW มาแต่อ้อนแต่ออก ซึ่งการแต่งรถของ BMW จะมีสเต็ปการแต่งแบบแรกคือ

  1. การปรับจูนเครื่องยนต์และระบบช่วงล่าง ที่ส่วนใหญ่จะใช้สำนักแต่ง BMW M แท้ ที่จะใช้เครื่องยนต์ M ที่แรงกว่าปกติ และมีราคาสูงมาก
  2. สองคือการแต่งบอดี้ ซึ่งมีตัวเลือกการแต่งแบบ M Performance Parts เป็นชุดแต่งบอดี้แท้จาก BMW ซึ่งจะลงตัวและใช้งานได้จริง มีการรับประกันชิ้นส่วน และไม่รบกวนเอกลักษณ์ดั้งเดิมของ BMW

หรือหาจะหาชุดแต่งจากสำนักแต่งอื่นๆ ในบ้านเรา มีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และสไตล์ของแต่ละคน ถ้าไม่อยากซื้อ Series เก่ามาแต่ง ขอแนะนำรุ่นที่ใหม่ขึ้นและอยู่ในคลังของ Cars24 อย่าง BMW 330E, 320D มีทั้งรุ่นปี 2016 -2019 ซึ่งถ้านำมาตกแต่งเพิ่มเติม รับรองว่าสะดุดตาอย่างแน่นอน แถมราคายังอยู่ในช่วง 1.3 - 1.6 ล้านบาท เตรียมงบประมาณเอาไว้ตกแต่งอีกสัก 2 แสนบาท รับรองว่าสวยได้อย่างใจ และโดดเด่นตามสไตล์ของตัวเองอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ Cars24 ยังมีรถมือสองคุณภาพดี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกอีกหลากหลายรุ่น พร้อมการรับประกัน และแคมเปญการผ่อนที่รับรองว่าคุ้มค่า คุ้มราคาอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม