รถ Isuzu MU-7 ดีไหม? รถอเนกประสงค์สุดคุ้ม ราคาไม่เกิน 400,000 บาท
รถ Isuzu MU-7 ดีไหม? รถอเนกประสงค์สุดคุ้ม ราคาไม่เกิน 400,000 บาท จุดเริ่มต้นของ MU-X สุดโด่งดัง ราคามือ 1 จะเป็นอย่างไร รีวิวมือสองยังน่าใช้หรือไม่ ไปดูกัน
รถ Isuzu MU-7 (อีซูซุ มิว7) รถอเนกประสงค์ในกลุ่ม PPV ที่หลายคนให้ความสนใจ แม้ว่าปัจจุบันจะเป็นรุ่นที่ใช้ชื่อว่า Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์) มีการอัพเกรดอุปกรณ์ ออกแบบหน้าตาและการตกแต่งภายในใหม่ เพิ่มเติมระบบเทคโนโลยีความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เรียกว่า 'ADAS' (เอดาส) ไว้แบบเต็มขั้น ถือว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่สูงมากอีกรุ่นหนึ่งในตลาด แต่สำหรับ Isuzu MU-7 มือสอง หรือ Isuzu MU-X มือสอง สภาพดี ยังถือว่าเป็นรถที่มีความคุ้มค่า แม้ว่าจะเป็นรถมือสองที่มีอายุกว่า 10 ปี มาแล้วก็ตามที
Isuzu MU-7
จุดเริ่มต้นของ Isuzu MU-X ในปัจจุบัน
Isuzu MU-7 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2004 เป็นรถที่พัฒนามาจาก 'Cameo' (คามิโอ้) ซึ่งหากใครยังจำได้ Cameo รุ่นนี้ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่ยอดฮิตในช่วงนั้น เพราะยังมีรถในกลุ่มเอสยูวีค่อนข้างน้อยในตลาด
คำว่า 'MU' มาจาก 'Mysterious Utility' มีจุดเด่นที่มิติตัวถัง เบาะนั่งสามแถว 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซลที่อึดถึกทน ช่วงล่างเน้นความนุ่มนวล ซึ่งหากใครเจอมือสอง สภาพดี ต้องรีบเก็บเพราะหาสภาพดียากมากในตอนนี้ รวมทั้งหามือสองยากด้วยเช่นกัน
กลับมากันที่ Isuzu MU-7 ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ Isuzu D-MAX (อีซูซุ ดีแม็กซ์) ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2004 – 2013 จากนั้นจึงเปลี่ยนมาเป็น Isuzu MU-X ซึ่งตลอดเวลาทำตลาด 9 ปี ได้มีการปรับโฉม เพิ่มเติมอุปกรณ์ เพื่อให้ต่อสู้กับคู่แข่งในตลาดกลุ่มเดียวกันนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยการปรับเปลี่ยนรูปโฉมแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นการเปลี่ยนกระจังหน้า ไฟหน้า ไฟท้าย กันชนหน้าและหลัง รวมทั้งเพิ่มเติมอุปกรณ์ความสะดวกสบายบางอย่างเข้าไป
ยังมีเรื่องที่หลายคนยังไม่เคยรู้คือ Isuzu MU-X มีการพัฒนาโครงสร้างบางอย่างร่วมกับ Chevrolet Trailblazer อีกด้วย ถือว่าเป็นช่วงที่อีซูซุพัฒนารถอเนกประสงค์ได้อย่างก้าวกระโดด
จะติดอยู่อย่างเดียวคือ รูปโฉมในตอนนั้นได้รับความนิยมสู้คู่แข่งอย่าง Toyota Fortuner 2023 ไม่ได้ แต่ถ้าพูดกันในเรื่องของสมรรถนะและการใช้งานถือว่าไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
ขุมพลังของรถ Isuzu MU-7 ปังอยู่ไหม?
ในส่วนของขุมพลัง Isuzu MU-7 โฉมแรกใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พละกำลัง 146แรงม้า แรงบิด 294 นิวตันเมตร ยังคงมีช่วงล่างด้านหลังเป็นแหนบ ต่อมาเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ดีเซลรหัสใหม่ แต่ยังคงขนาด 3.0 ลิตร พร้อม DDI VGS Turbo แบบแปรผัน ที่ถือเป็นครั้งแรกกับเทอร์โบแบบนี้
แรงม้าขยับขึ้นมาเป็น 160แรงม้า แรงบิดสูงถึง 333 นิวตันเมตร มีตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ รวมทั้งมีตัวเลือกระบบขับเคลื่อนทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้ถูกใช้งานยาวนานจนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็น MU-X จึงได้มีการเปลี่ยนขุมพลังอีกครั้ง
รถ Isuzu MU-7 มีจุดเด่นตรงไหน?
คำตอบคือ Isuzu MU-7 เป็นรถอเนกประสงค์มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้าง เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3 ลิตร พละกำลังแรงจัดจ้าน และที่สำคัญคือ ราคาอะไหล่ไม่แพง ศูนย์บริการมีเยอะทั่วประเทศ รวมทั้งมีผู้ใช้งาน มิว 7 อยู่ค่อนข้างเยอะ ใช้อะไหล่ร่วมกับ D-MAX ได้อีก กลายเป็นรถที่หากใครขับใช้งานอีซูซุมาก่อนอยู่แล้ว มักจะไม่เปลี่ยนใจไปใช้ยี่ห้ออื่น
แต่ถึงอย่างนั้นยังมีจุดด้อยอยู่บ้างคือ ช่วงล่างด้านหลังที่ค่อนข้างนุ่มนวลไปหน่อย ทำให้เกิดอาการโยน หรือโคลงเคลงอยู่บ้างเวลาที่เจอเส้นทางที่เป็นหลุมบ่อ และเมื่อใช้งานไปนานๆ เบาะหนังจะเริ่มเกิดอาการแตกลาย วัสดุที่เป็นพลาสติกในห้องโดยสารสีซีดและสีลอกได้ง่าย ส่วนด้านขุมพลังดีเซลแม้จะขึ้นชื่อในเรื่องของความอึดถึกทน แต่หากไม่ดูแลเป็นประจำจะมีอาการเกี่ยวกับเครื่องยนต์เดินไม่เรียบอยู่บ้างเท่านั้น ซึ่งหากเทียบดูแล้วกับคู่แข่งถือว่าปัญหาน้อย ไม่ต้องกังวลมาก
เลือกรถ Isuzu MU-7 ปีไหนคุ้มสุด?
ตอบแบบฟันธงไปเลยว่าต้อง Isuzu Mu-7 มือสอง รุ่นปี 2013 เพราะเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนจะเปลี่ยนเป็น Isuzu MU-X โฉมนี้มีการเปลี่ยนแปลงชุดกันชนพร้อมสปอยเลอร์หน้าและหลังให้มีความสปอร์ตขึ้น กรอบโครเมียมที่ชุดไฟหน้าและไฟท้าย เปลี่ยนไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED แล้ว ส่วนล้อก็มีการปัดเงาในทุกรุ่นย่อยอีกด้วย และควรเป็นรุ่นที่มี VGS Turbo เพราะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่แล้ว มีพละกำลังที่จัดจ้านกว่าเดิม
ไหน ๆ จะเลือกรถมือสอง สภาพดีแล้ว ต้องเลือกเครื่องยนต์ตัวใหม่ด้วยถึงจะคุ้ม ทั้งยังสามารถใช้อะไหล่หลายอย่างร่วมกันกับ Isuzu D-MAX ที่ราคาไม่สูง ซ่อมง่าย ทั้งซ่อมห้างและซ่อมตามอู่ทั่วไป
ส่วนเรื่องของภายในห้องโดยสาร แน่นอนว่ารถอายุขนาดนี้อาจจะมีบางจุดที่ดูไม่ค่อยสมบูรณ์ อย่างพวกร่องรอย สีซีด ตามวัสดุที่เป็นพลาสติก ส่วนเบาะหนังอาจจะมีแตกลายบ้าง ซึ่งถือว่าสมัยนี้แก้ไขได้ไม่ยาก ซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ราคาไม่สูง ตามร้านประดับยนต์มีตัวเลือกให้เยอะ สามารถเปลี่ยนเครื่องเสียงมาเป็นหน้าจอสัมผัสรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ หรือจะเปลี่ยนก้านพวงมาลัย เปลี่ยนอุปกรณ์ตกแต่งภายในใหม่ ในตลาดตอนนี้มีตัวเลือกมากมายโดยเฉพาะตลาดออนไลน์มีตัวเลือกมากมาย จนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
เช็ก Isuzu MU-7 ราคา ปีไหนตรงใจคุณ
Isuzu MU-7 ราคามือ 1
ในช่วงเปิดตัว Isuzu MU-7 ราคาอยู่ที่ 1,013,000 – 1,333,000 บาท สำหรับ Isuzu MU-7 มือสอง สภาพดี ปัจจุบัน ราคาไม่เกิน 450,000 บาท ถือว่าราคาประหยัดลงไปเยอะมาก
Isuzu MU-7 ราคามือสอง
- งบประมาณ 350,000 -400,000 บาท: รถ Isuzu MU-7 มือสอง สภาพดี ในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นปี 2012 เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร I-TEQ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ ราคานี้เทียบเท่ากับรถอีโคคาร์มือสองได้เลย แต่จะเหนือกว่าตรงที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล พละกำลังและแรงบิดมากกว่า พื้นที่ห้องโดยสารได้เปรียบในทุกมิติ ถ้ากำลังมองหารถครอบครัวเอาไว้ขับใช้งานสักคัน และเผื่อเอาไว้สำหรับเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด ในราคานี้ถือว่าคุ้มค่ากว่ามาก
- งบประมาณไม่เกิน 350,000 บาท: แนะนำรถ Isuzu MU-7 มือสอง รุ่นปี 2011 ควรจะเลือกรถที่เจ้าของเดิมดูแลเรื่องของเหลวต่าง ๆ ในเครื่องยนต์เป็นประจำ
Tips: หมดกังวลเรื่องตรวจรถมือสองไม่เป็น แนะนำให้เลือกรถมือสองของ CARS24 ที่ผ่านการตรวจเช็กสภาพมากกว่า 150 รายการ เราคัดเลือกเฉพาะรถสภาพดีเยี่ยมเท่านั้น ไม่มีย้อมแมวอย่างแน่นอน ให้คุณออกรถง่ายด้วยเงื่อนไขพิเศษที่ปฏิเสธไม่ลง ไม่ต้องดาวน์ ผ่อนนาน 84 เดือน พร้อมรับประกันหลังการขาย
CARS24 มี Isuzu Mu-X มือสอง ให้เลือกหลายรุ่น ผ่านการตรวจเช็กสภาพโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 จุด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น