รถยนต์ไฟฟ้า 2024 จากจีนสู่ไทย ชะตาจะรุ่งหรือร่วงในอีกไม่กี่ก้าวต่อจากนี้?

ถ้าย้อนเวลากลับไปถึงช่วงการมาของรถอีโค คาร์ ที่มีแรงสนับสนุนจากรัฐบาลในอดีตแล้ว ช่างคลับคล้ายคลับคลากับช่วงบูมของ รถยนต์ไฟฟ้า 2024 ในขณะนี้ จะแตกต่างก็คงตรงตำแหน่งผู้เล่นในตลาดที่มีจำนวนมากกว่า พร้อมนโยบายสนับสนุนชุดแรกจากรัฐบาลยุคที่แล้วแบบยาแรง ก่อนจะอัดยาซ้ำด้วยนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาลยุคปัจจุบัน

หลายฝ่ายมองภาพแรงกระเพื่อมของรถยนต์ไฟฟ้า จะยังคงเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งฝ่ายผู้ผลิตที่ไม่ใช่เฉพาะแบรนด์จากประเทศจีนเท่านั้น แต่จะเป็นยี่ห้อจากทั่วโลกที่ถาโถมเข้ามาตามคำเชื้อเชิญของรัฐบาลไทย พร้อมนโยบายสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มีอีกหลายฝ่ายพยายามทักท้วง ถึงห่วงโซ่อุปทานหรือความพร้อมรองรับรถไฟฟ้าในอีกหลายๆ ด้าน

รถยนต์ไฟฟ้า 2024

อีกกี่โมเดลให้หวือหวาและตื่นตาตื่นใจ

ภาพของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีลุคล้ำไม่ต่างจากยานอวกาศ ถูกทอดแบบและถ่ายทอดออกมาตามจินตนาการของวิศวกรของแต่และค่ายไม่เหมือนกัน โดยนำรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จในท้องตลาดโลกมาเป็นต้นแบบ ก่อนจะสอดแทรกความเป็นเอกลักษณของตัวเองเข้าไปให้กลมกล่อม เพื่อสร้างความยอมรับพื้นฐานในใจผู้บริโภค

ผลลัพธ์การออกแบบที่สวยไปคนละทิศละทางที่ออกมาจากหลากหลายค่าย จะมีสักก่ีโมเดลสามารถชนะใจผู้บริโภคและตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของ? แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกแบบจะประสบความสำเร็จ และคำถามที่มากไปกว่านั้นคือ แล้วผลลัพธ์ลักษณะใดในกลุ่มรถอันแตกต่าง จะกลายเป็นมาตรฐานการดีไซน์หรือดีเอ็นเอการออกแบบเดียวกัน ที่ยอมรับกันทุกๆ แบรนด์ทั่วโลก

คำตอบตอนนี้ที่ยังไม่ตกตะกอน ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่พากันออกตัวสวยแบบไร้ทิศทาง นั่นยังรวมถึงห้องโดยสารภายในที่ต่างคนต่างแบรนด์ต่างคิดว่าล้ำ ก็ขยำขยุมรวมลูกเล่นในการบังคับและสั่งการต่างๆ ยัดเข้าไป จนล้นเกินการใช้งานจริง

รถยนต์ไฟฟ้า 2024 เข้าไทย

อีกกี่บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมาดำเนินธุรกิจ

การทะลักเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าจากแดนมังกรยังคงดำเนินต่อไป ตามนโยบายสนับสนุนของภาครัฐเฟซ 2 หรือ EV 3.5 แน่นอนว่า มีทั้งค่ายเดิมที่มาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว และค่ายใหม่ๆ ที่จะนำรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายกลุ่มเข้ามาปันส่วนแบ่งการตลาด โดยดำเนินการเซ็น MOU อย่างเงียบเชียบเรียบร้อย

นั่นยังไม่นับรวมค่ายรถยนต์จากทางยุโรปหรืออเมริกา ที่พร้อมจะเข้ามาสู่ในตลาดเมืองไทย ตามคำมั่นสัญญาที่จะลดการปล่อยคาร์บอนให้เหลือศูนย์ภายในปีค.ศ. 2030 นั่นหมายความว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยที่จวนเจียนจะอิ่มตัว ในตลาดใหญ่ที่ยังมีรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปที่ใช้พลังงานสะอาดใหม่อยู่ จะเกิดสงครามช่วงชิงยอดจำหน่ายกันอย่างโกลาหล

คำตอบตอนนี้ที่ยังไม่ตกตะกอน  ถึงตอนนี้ การเข้าแทนที่ของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดรถเมืองไทย 100 เปอร์เซ็นต์ คงเป็นไปไม่ได้ มิหนำซ้ำ สัดส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์ต่อรถยนต์ไฟฟ้าในรอบปีก็มีภาพชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วตลาดเล็กๆ ที่มีผู้เล่นเยอะจะทำอย่างไร?

สถานีชาร์จรถไฟฟ้า

อีกกี่เจ้าปั๊มชาร์จถึงจะพอกับความต้องการ

การถาโถมเข้ามาในตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ปราศจากความพร้อมของสถานีชาร์จรองรับ ยังปรากฎเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง และชัดเจนมากในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา แม้จะมีมาตราการรับมือจากค่ายรถไฟฟ้าเองที่เร่งเพิ่มสถานีชาร์จ รวมถึงภาครัฐและเอกชนจากทุกภาคส่วนลงมาทำธุรกิจรองรับในส่วนนี้ก็ตาม

ต่อให้มีการแถมเครื่องชาร์จไฟและบริการติดตั้งฟรีให้ที่บ้าน แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการเดินทางไกลไปพักผ่อนต่างจังหวัด เพราะความจุของแบตเตอรี่อันจำกัด ทำให้ต้องวางแผนการเดินทางและปักหมุดหาสถานีชาร์จระหว่างทางอย่างเหมาะสม กระทั่งกลายเป็นเรื่องเสียเวลาและความยุ่งยากกว่ารถใช้น้ำมัน ที่วางใจในปั๊มบริการได้ตลอดเส้นทาง โดยไม่ต้องมีลุ้นให้เสียวไส้ใดๆ

คำตอบตอนนี้ที่ยังไม่ตกตะกอน ถึงวันนี้จะมีจำนวนสถานีชาร์จไฟเพิ่มมากขึ้น แต่ยังเป็นอัตราส่วนที่น้อยกว่าปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนและใช้งานจริงบนท้องถนน แถมระบบการจองและใช้งานยังมีปัญหาตะกุกตะกักไม่หยุดหย่อน จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตาสำหรับโครงสร้างพื้นฐานอันปราศจากความพร้อมนี้ หากไม่สามารถตอบสนองตามปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมีเข้ามาอีก

รถยนต์ไฟฟ้า 2024

อีกกี่ธุรกิจที่จะแตกตัวรองรับพาหนะสะอาด

ถ้าเป็นธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ของยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องมีการลงทุนใหม่ เช่น สถานีบริการชาร์จไฟ คลังอะไหล่รถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ หรือศูนย์บริการซ่อมบำรุงรักษา มีลู่ทางการดำเนินธุรกิจที่ไปได้รุ่ง ตามจำนวนรถไฟฟ้าที่หลั่งไหลออกมาใช้งานตามท้องถนนเมืองไทย

แต่สำหรับธุรกิจเกี่ยวพันที่ต้องมีการปรับตัว ยกตัวอย่างล่าสุดเช่น บริษัทรถเช่าแบรนด์โกลบอลชื่อดังแห่งอเมริกา ซึ่งออกตัวโมเดลธุรกิจให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้าสารพัดแบบไปก่อนหน้านี้ ได้ประกาศยุติการตำเนินธุรกิจนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และหันกลับมาดำเนินธุรกิจรถยนต์เช่าแบบเดิม เนื่องจากขาดทุนกำไรในการดำเนินงานระยะยาว เพราะอะไหล่แบตเตอรี่มีราคาแพงเกินแบกรับ

คำตอบตอนนี้ที่ยังไม่ตกตะกอน สำหรับธุรกิจเกี่ยวเนื่องในเมืองไทยที่มีทางรอดแบบใสๆ คงไม่พ้นร้านอุปกรณ์ประดับยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีของเล่นจุกจิกให้เลือกนำเข้ามาขายชนิดเลือกไม่ถูก ส่วนช่างซ่อมแอร์ ไดสตาร์ท ระบบไฟฟ้า และแบตเตอรี่ในรถยนต์แบบเดิม คงต้องต่อยอดพัฒนาความรู้ขึ้นไปซ่อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ในระบบขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า

อีกนานเท่าไหร่ที่อัตราจะเหมาะสม

หลักในการคำนวนภาษีรถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทยนั้น แยกออกไปตามประเภทและน้ำหนักของรถ ซึ่งมีอัตราการเสียภาษีต่อปีถูกกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ที่คำนวนค่าใช้จ่ายตามลักษณะประเภทของรถและขนาดของเครื่องยนต์  มิหนำซ้ำ ค่าภาษีรถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้ (รถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน  2568) ยังถูกลงไปอีกถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ตามนโยบายส่งเสริมการใช้พาหนะพลังงานสะอาดของรัฐบาล

โดยรถยนต์นั่งไฟฟ้าส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 500 กิโลกรัม เสียภาษีรายปีเพียง 30 บาท, น้ำหนักระหว่าง 501-750 กิโลกรัม ต้องเสียภาษี 60 บาท และน้ำหนัก 751-1,000 กิโลกรัม จะเสียภาษี 90 บาท ขณะที่รถยนต์นั่งไฟฟ้าส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 500 กิโลกรัม เสียภาษี 15 บาท, น้ำหนักระหว่าง 501-750 กิโลกรัม เสียภาษี 30 บาท และรถยนต์ไฟฟ้าน้ำหนัก 751-1,000 กิโลกรัม เสียภาษีรายปีแค่ 45 บาท

คำตอบตอนนี้ที่ยังไม่ตกตะกอน หลังจากวันที่ 30 กันยายน 2568 ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน น้ำหนักไม่เกิน 500 กิโลกรัม ต้องเสียภาษี 150 บาท, น้ำหนัก 501-750 กิโลกรัม ต้องเสียภาษี 300 บาท และน้ำหนัก 751-1,000 กิโลกรัม เสียภาษี 450 บาท ส่วนรถยนต์นั่งไฟฟ้าส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 500 กิโลกรัม อยู่ที่ 75 บาท, น้ำหนักระหว่าง 501-750 กิโลกรัม ต้องเสียภาษี 150 บาท และน้ำหนัก 751-1,00 กิโลกรัม เสียภาษี 225 บาท

ประกันรถไฟฟ้า EV

อีกกี่ปีจะเท่ากับรถยนต์สันดาป

แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีชิ้นส่วนหลักๆ น้อยมาก ประมาณ 6-7 ชิ้น จนหลายคนทักถึงความไม่ซับซ้อนเท่าเครื่องยนต์ และน่าจะนำมาเป็นหลักคำนวนค่าประภัยที่ควรลดลงตามสัดส่วน โดยลืมคิดไปว่า ทำไมค่าตัวของรถทั้งคันในกลุ่มเดียวกันถึงออกมาจำหน่ายในราคาไม่แตกต่างกัน นั่นสะท้อนถึงความแรงในเรื่องราคาของชิ้นส่วนหลักเพียงไม่กี่ชิ้นของรถยนต์ไฟฟ้า และกลายเป็นหนึ่งในข้อพิจารณาเบี้ยประกันภัยรถไฟฟ้าในเมืองไทย

นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของประชากรรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนน ที่ยังมีจำนวนน้อยมากอยู่เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป จึงไม่สามารถสะท้อนความเสี่ยงอันแท้จริงออกมาและนำมาคำนวนเบี้ยประกันภัยอันเหมาะสมได้ ที่สำคัญยังไม่นับรวมถึงค่าอะไหล่และการบำรุงรักที่สูงกว่าปกติ เพราะต้องใช้ช่างเฉพาะทางและอะไหล่แท้มาเปลี่ยนทดแทนเท่านั้น ส่งผลให้เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้ารายปีสูงกว่ารถยนต์ปกติในกลุ่มเดียวกันถึง 20 เปอร์เซ็นต์

คำตอบตอนนี้ที่ยังไม่ตกตะกอน หลักคำนวนค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าข้างต้น เริ่มใช้กันมาตั้งแต่ปี 2022 และค่อยๆ ลดลงในแต่ละปีตามปัจจัยข้างต้นที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งประชากรรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาล การสั่งสมอะไหล่จนเพียงพอต่อการบริการ และความสามารถของช่างในการซ่อมแซมที่เพิ่มขึ้น จึงคาดว่าในปี 2025 ค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาปอย่างแน่นอน

หุ้นรถยนต์ไฟฟ้า 2024

ความสำเร็จของไทยสู่ความสำเร็จระดับโลกของรถยนต์ไฟฟ้าจีน

นโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ และส่งเสริมการลงทุนตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ถือเป็นข้อตกลงที่จะนำพาความสำเร็จมาสู่ทั้งสองฝ่าย แน่นอนว่า ประเทศไทยได้เดินหน้าขับเคลื่อนการเดินทางด้วยพลังงานสะอาด พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยเม็ดเงินลงทุนอันมหาศาล จากค่ายรถยนต์ไฟฟ้าแดนมังกรที่ยังทะยอยเข้ามาไม่หยุด

ขณะที่บริษัทรถยนต์ต่างๆ จากจีน ได้เข้ามาเปิดตัวผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า 2024ในตลาดเมืองไทยได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันทันสมัย ด้วยการตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในเมืองไทย ก่อนจะจัดจำหน่ายไปยังตลาดยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก โดยไม่ได้จำกัดไว้กับตลาดระดับจุลภาค แต่เป็นตลาดโลกระดับมหภาค

สุดท้าย ประโยชน์ก็จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคชาวไทยที่มีทางเลือกอันหลากหลาย เพื่อก้าวไปสู่สังคมพลังงานสะอาดปราศจากการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดงที่ถอยออกมาจากโชว์รูม หรือรถมือสองสภาพเยี่ยมที่ต้องปรับตัวเปิดตลาดอนาคต เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ขับเคลื่อนสังคมการเดินทางด้วยพลังงานสีเขียว...ที่มาถึงแล้วในวันนี้!

สำหรับใครที่อยากซื้อ-ขาย-เทิร์น จบในที่เดียว CARS24 พร้อมให้บริการและมีรถมือสองให้เลือกกว่า 1,000 คัน จะเลือกซื้อหรือขายรถผ่านเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ที่ App Store และ Google Play สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.02 028 7428 ติดต่อได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.