รีวิว Ford Ranger Raptor 2022 แต่งดุ ไม่เกรงใจใคร!
หลังจาก Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) สร้างตำนาน “กระบะคันละล้าน” ผ่านไป ทำเอาตลาดลุกเป็นไฟ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งเดิมในเมืองไทย ที่ยังไม่มีค่ายไหนกล้ากระโดดข้ามตัวเลขค่าตัวดังกล่าว ในขณะที่เสียงตอบรับจากผู้บริโภคสวนทางความเชื่อเก่า ๆ กลายเป็นแรงส่งให้เกิดกระบะ High Performance อย่าง Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์) กระโจนออกมาสู่ท้องถนนตามมา
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ถือกำเนิดขึ้นในปี 2018 เพื่อเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการกระบะออฟโรด หัวใจของแร็พเตอร์เต้นแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) ปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 6 แบบ ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือ "โหมดบาฮา" สำหรับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง
![](https://media.cars24.co.th/thailand/blog/uploads/2023/11/1800FordRangerSuperCab_018-1.jpg)
ภายนอกติดตั้งโลโก้ฟอร์ดขนาดบนกระจังหน้า ช่วงล่างถูกยกสูงขึ้นและปรับปรุงใหม่แบบหมดจด มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox ที่มีระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass) และระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่บนทางออฟโรดเป็นพิเศษ
ตัดเหลี่ยม เฉือนคม ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โฉมก่อนกับโฉมล่าสุด
ผ่านมาถึงฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โฉมปัจจุบัน ก็ไม่ได้ทำให้เหล่าสาวกผิดหวังกับสมรรถนะลุยโหดแบบออฟโรด ด้วยการเพิ่มเติมประสิทธิภาพเข้าไปในทุกๆ ด้าน ให้ไดโนเสาร์ตัวนี้ตะกุยและกระโจนผ่านเส้นทางอุปสรรคอย่างง่ายดายทุกรูปแบบ รวมถึงโฉมหน้าที่สบตาด้วยไฟคู่หน้าทรงใหม่ ไม่หลงเหลือเค้าเดิมให้จดจำอีกต่อไป
หน้าตาดุดัน...ไม่เกรงใจใคร
![](https://media.cars24.co.th/thailand/blog/uploads/2023/11/Ford-Ranger-Raptor-2022-1.jpg)
ไฟหน้าแบบ Matrix LED โคมรมดำ ประกบข้างกระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ประทับตราฟอร์ดโดดเด่น ส่วนไฟส่องสว่างเวลากลางวันและไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED กันชนหน้ามีขนาดเล็กกลมกลืนกับส่วนหัวตัวถังด้านหน้า ตกแต่งด้วยสีดำเช่นเดียวกันกับคิ้วกันกระแทกซุ้มล้อ พร้อมด้านล่างติดตั้งแผงกันกระแทกสีเงิน
กระจกมองข้างขนาดใหญ่ปรับพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟส่องสว่างข้างตัวรถ ติดตั้งบันไดข้างอลูมิเนียมผิวกันลื่นสีดำรับกับสีคิ้วกันกระแทกซุ้มล้อ มาพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว ส่วนฝาท้ายเปิด-ปิดแบบผ่อนแรง โดยฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ใหม่ มีมิติความยาว 5,381 มม. กว้าง 2,028 มม. และสูง 1,922 มม. ด้วยรูปทรงที่เป็นเหลี่ยมทรงกล่องมากกว่าเดิม
ภายในออกแบบเป็นห้องเครื่องบินขับไล่
![](https://media.cars24.co.th/thailand/blog/uploads/2023/11/Next-Gen-Ranger-Raptor-Dash.jpg)
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ใหม่ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 5 คนเท่าเดิม เบาะใข้วัสดุคุณภาพสูง หุ้มด้วยหนังและหนังสังเคราะห์ดีไซน์เฉพาะรุ่น เบาะคู่หน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 10 ทิศทาง มาตรวัดเรือนไมล์เป็นดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชัน สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง เข้า-ออกจากตัว และ บน-ล่าง
![](https://media.cars24.co.th/thailand/blog/uploads/2023/11/Next-Gen-Ranger-Raptor-Seats-1.jpg)
จอกลางอินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัส ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา 12 นิ้วแนวตั้ง สั่งงานได้ด้วยเสียง รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth พร้อมระบบนำทาง และระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะติดตั้งระบบเสียง Bang & Olufsen พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ขุมพลังเบนซินดุดันยิ่งกว่า พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โฉมเดิมในเมืองไทย จะมีเพียงเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดียว แต่ในโฉมล่าสุดจะมีขุมพลังเบนซินให้เลือกแรงไปให้สุด เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบวี 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังอย่างราบรื่นผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายหน้า-หลัง
![](https://media.cars24.co.th/thailand/blog/uploads/2023/11/Next-Gen-Ranger-Raptor-Front-3.jpg)
สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จะเป็นแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ในช่วง 1,750-2,000 รอบ/นาที และส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายด้านหลังเช่นเดียวกัน แต่จะให้อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีกว่า
เพิ่มระบบการขับขี่ เพื่อสุนทรียศาสตร์การลุยแบบปอกกล้วยเข้าปาก
จากเดิมที่มีเพียง 6 โหมดการขับขี่ งานนี้ไดโนเสาร์แร็พเตอร์ได้เติมเขี้ยวเล็บเข้าไปอีก 1 โหมด คือ โหมด Normal สำหรับการขับขี่ปกติ, โหมด Sport เน้นสมรรถนะ, โหมด Slippery สำหรับทางลื่น, โหมด Mud/Ruts สำหรับลุยโคลน, โหมด Sand สำหรับลุยทราย, โหมด Baja สำหรับวิ่งผ่านอุปสรรคในย่านความเร็วสูง และโหมด Rock Crawl ที่เพิ่มขึ้นมา เพื่อฝ่าฟันไปบนเส้นทางที่เป็นแง่งหิน ส่วนระบบช่วงล่างจะปรับได้ 3 โหมด คือ Normal, Sport และ Off-Road
![](https://media.cars24.co.th/thailand/blog/uploads/2023/11/Next-Gen-Ranger-Raptor-Front-2.jpg)
นอกจากดุดันในเรื่องสมรรถนะด้านต่างๆ แล้ว ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังจัดหนักจัดเต็มเรื่องระบบความปลอดภัยมาให้ ทั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบโทร.ออกฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ, ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control), ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (ROM) และเบรกมือไฟฟ้า เป็นต้น
รักพี่ เสียดายน้อง ชอบของใหม่ แต่ของเก่าตอบโจทย์กว่า
ในตลาดรถยนต์เมืองไทยนั้น รูปลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ในการเลือกหรือไม่เลือกตัดสินใจเป็นเจ้าของ ถึงฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โฉมล่าสุด จะโดดเด่นด้วยดีเอ็นเออฟโรดทรงกล่องแบบอเมริกันจ๋า พร้อมเพิ่มรายละเอียดในการตกแต่งต่างๆ รอบตัวอีกมากมาย แต่สำหรับรู้สึกความพลิ้วไหวและพร้อมจะโจนทะยานไปข้างหน้าเวลาหยุดนิ่ง กลับขาดคุณสมบัติในข้อนี้ไปต่างจากรุ่นก่อนหน้า
![](https://media.cars24.co.th/thailand/blog/uploads/2023/11/Next-Gen-Ranger-Raptor-Rear-4.jpg)
ส่วนเรื่องสมรรถนะรอบตัวนั้น ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ใหม่นั้นมีมากจนล้นเกินการใช้งานจริงหรือเปล่า? ทั้งเครื่องยนต์เบนซินพลังเหลือล้น ที่เผลอกดคันเร่งเพลินจนเกินความเร็วที่กำหนด หรือโหมดการขับขี่อันมากมายเกินไป จนแทบไม่ได้ใช้งานครบทั้งหมด ส่งผลให้บทสรุปมาตกอยู่ที่ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โฉมก่อนหน้าไหม?
![](https://media.cars24.co.th/thailand/blog/uploads/2023/11/4-1.png)
ใครอยากได้รถกระบะแต่งดุไม่เกรงใจใคร รถ Ford Ranger มือสองของ CARS24 มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น ทุกคันผ่านการตรวจเช็กสภาพโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 จุด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น