รีวิว Ford Ranger Raptor 2022 แต่งดุ ไม่เกรงใจใคร!

CARS24
CARS24
| อ่าน 2 นาที

หลังจาก Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) สร้างตำนาน “กระบะคันละล้าน” ผ่านไป ทำเอาตลาดลุกเป็นไฟ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งเดิมในเมืองไทย ที่ยังไม่มีค่ายไหนกล้ากระโดดข้ามตัวเลขค่าตัวดังกล่าว ในขณะที่เสียงตอบรับจากผู้บริโภคสวนทางความเชื่อเก่า ๆ กลายเป็นแรงส่งให้เกิดกระบะ High Performance อย่าง Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์) กระโจนออกมาสู่ท้องถนนตามมา

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ถือกำเนิดขึ้นในปี 2018 เพื่อเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการกระบะออฟโรด หัวใจของแร็พเตอร์เต้นแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) ปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 6 แบบ ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือ "โหมดบาฮา" สำหรับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง

ภายนอกติดตั้งโลโก้ฟอร์ดขนาดบนกระจังหน้า ช่วงล่างถูกยกสูงขึ้นและปรับปรุงใหม่แบบหมดจด มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox ที่มีระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass) และระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่บนทางออฟโรดเป็นพิเศษ

ตัดเหลี่ยม เฉือนคม ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โฉมก่อนกับโฉมล่าสุด

ผ่านมาถึงฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โฉมปัจจุบัน ก็ไม่ได้ทำให้เหล่าสาวกผิดหวังกับสมรรถนะลุยโหดแบบออฟโรด ด้วยการเพิ่มเติมประสิทธิภาพเข้าไปในทุกๆ ด้าน ให้ไดโนเสาร์ตัวนี้ตะกุยและกระโจนผ่านเส้นทางอุปสรรคอย่างง่ายดายทุกรูปแบบ รวมถึงโฉมหน้าที่สบตาด้วยไฟคู่หน้าทรงใหม่ ไม่หลงเหลือเค้าเดิมให้จดจำอีกต่อไป

หน้าตาดุดัน...ไม่เกรงใจใคร

ไฟหน้าแบบ Matrix LED โคมรมดำ ประกบข้างกระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ประทับตราฟอร์ดโดดเด่น ส่วนไฟส่องสว่างเวลากลางวันและไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED กันชนหน้ามีขนาดเล็กกลมกลืนกับส่วนหัวตัวถังด้านหน้า ตกแต่งด้วยสีดำเช่นเดียวกันกับคิ้วกันกระแทกซุ้มล้อ พร้อมด้านล่างติดตั้งแผงกันกระแทกสีเงิน

กระจกมองข้างขนาดใหญ่ปรับพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟส่องสว่างข้างตัวรถ ติดตั้งบันไดข้างอลูมิเนียมผิวกันลื่นสีดำรับกับสีคิ้วกันกระแทกซุ้มล้อ มาพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว ส่วนฝาท้ายเปิด-ปิดแบบผ่อนแรง โดยฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ใหม่ มีมิติความยาว 5,381 มม. กว้าง 2,028 มม. และสูง 1,922 มม. ด้วยรูปทรงที่เป็นเหลี่ยมทรงกล่องมากกว่าเดิม

ภายในออกแบบเป็นห้องเครื่องบินขับไล่

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ใหม่ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 5 คนเท่าเดิม เบาะใข้วัสดุคุณภาพสูง หุ้มด้วยหนังและหนังสังเคราะห์ดีไซน์เฉพาะรุ่น เบาะคู่หน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 10 ทิศทาง มาตรวัดเรือนไมล์เป็นดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชัน สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง เข้า-ออกจากตัว และ บน-ล่าง

จอกลางอินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัส ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา 12 นิ้วแนวตั้ง สั่งงานได้ด้วยเสียง รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth พร้อมระบบนำทาง และระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะติดตั้งระบบเสียง Bang & Olufsen พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ขุมพลังเบนซินดุดันยิ่งกว่า พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โฉมเดิมในเมืองไทย จะมีเพียงเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดียว แต่ในโฉมล่าสุดจะมีขุมพลังเบนซินให้เลือกแรงไปให้สุด เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบวี 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังอย่างราบรื่นผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายหน้า-หลัง

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จะเป็นแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ในช่วง 1,750-2,000 รอบ/นาที และส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายด้านหลังเช่นเดียวกัน แต่จะให้อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีกว่า

เพิ่มระบบการขับขี่ เพื่อสุนทรียศาสตร์การลุยแบบปอกกล้วยเข้าปาก

จากเดิมที่มีเพียง 6 โหมดการขับขี่ งานนี้ไดโนเสาร์แร็พเตอร์ได้เติมเขี้ยวเล็บเข้าไปอีก 1 โหมด คือ โหมด Normal สำหรับการขับขี่ปกติ, โหมด Sport เน้นสมรรถนะ, โหมด Slippery สำหรับทางลื่น, โหมด Mud/Ruts สำหรับลุยโคลน, โหมด Sand สำหรับลุยทราย, โหมด Baja สำหรับวิ่งผ่านอุปสรรคในย่านความเร็วสูง และโหมด Rock Crawl ที่เพิ่มขึ้นมา เพื่อฝ่าฟันไปบนเส้นทางที่เป็นแง่งหิน ส่วนระบบช่วงล่างจะปรับได้ 3 โหมด คือ Normal, Sport และ Off-Road

นอกจากดุดันในเรื่องสมรรถนะด้านต่างๆ แล้ว ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังจัดหนักจัดเต็มเรื่องระบบความปลอดภัยมาให้ ทั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบโทร.ออกฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ, ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control), ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (ROM) และเบรกมือไฟฟ้า เป็นต้น

รักพี่ เสียดายน้อง ชอบของใหม่ แต่ของเก่าตอบโจทย์กว่า

ในตลาดรถยนต์เมืองไทยนั้น รูปลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ในการเลือกหรือไม่เลือกตัดสินใจเป็นเจ้าของ ถึงฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โฉมล่าสุด จะโดดเด่นด้วยดีเอ็นเออฟโรดทรงกล่องแบบอเมริกันจ๋า พร้อมเพิ่มรายละเอียดในการตกแต่งต่างๆ รอบตัวอีกมากมาย แต่สำหรับรู้สึกความพลิ้วไหวและพร้อมจะโจนทะยานไปข้างหน้าเวลาหยุดนิ่ง กลับขาดคุณสมบัติในข้อนี้ไปต่างจากรุ่นก่อนหน้า

ส่วนเรื่องสมรรถนะรอบตัวนั้น ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ใหม่นั้นมีมากจนล้นเกินการใช้งานจริงหรือเปล่า? ทั้งเครื่องยนต์เบนซินพลังเหลือล้น ที่เผลอกดคันเร่งเพลินจนเกินความเร็วที่กำหนด หรือโหมดการขับขี่อันมากมายเกินไป จนแทบไม่ได้ใช้งานครบทั้งหมด ส่งผลให้บทสรุปมาตกอยู่ที่ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โฉมก่อนหน้าไหม?

ใครอยากได้รถกระบะแต่งดุไม่เกรงใจใคร รถ Ford Ranger มือสองของ CARS24 มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น ทุกคันผ่านการตรวจเช็กสภาพโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 จุด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นCARS24 ได้ที่ App Store และ Google Play สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 028 7428 ติดต่อได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.

หลังจาก Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) สร้างตำนาน “กระบะคันละล้าน” ผ่านไป ทำเอาตลาดลุกเป็นไฟ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งเดิมในเมืองไทย ที่ยังไม่มีค่ายไหนกล้ากระโดดข้ามตัวเลขค่าตัวดังกล่าว ในขณะที่เสียงตอบรับจากผู้บริโภคสวนทางความเชื่อเก่า ๆ กลายเป็นแรงส่งให้เกิดกระบะ High Performance อย่าง Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์) กระโจนออกมาสู่ท้องถนนตามมา

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ถือกำเนิดขึ้นในปี 2018 เพื่อเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการกระบะออฟโรด หัวใจของแร็พเตอร์เต้นแรงด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) ปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 6 แบบ ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือ "โหมดบาฮา" สำหรับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง

ภายนอกติดตั้งโลโก้ฟอร์ดขนาดบนกระจังหน้า ช่วงล่างถูกยกสูงขึ้นและปรับปรุงใหม่แบบหมดจด มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox ที่มีระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass) และระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่บนทางออฟโรดเป็นพิเศษ

ตัดเหลี่ยม เฉือนคม ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โฉมก่อนกับโฉมล่าสุด

ผ่านมาถึงฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โฉมปัจจุบัน ก็ไม่ได้ทำให้เหล่าสาวกผิดหวังกับสมรรถนะลุยโหดแบบออฟโรด ด้วยการเพิ่มเติมประสิทธิภาพเข้าไปในทุกๆ ด้าน ให้ไดโนเสาร์ตัวนี้ตะกุยและกระโจนผ่านเส้นทางอุปสรรคอย่างง่ายดายทุกรูปแบบ รวมถึงโฉมหน้าที่สบตาด้วยไฟคู่หน้าทรงใหม่ ไม่หลงเหลือเค้าเดิมให้จดจำอีกต่อไป

หน้าตาดุดัน...ไม่เกรงใจใคร

ไฟหน้าแบบ Matrix LED โคมรมดำ ประกบข้างกระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ประทับตราฟอร์ดโดดเด่น ส่วนไฟส่องสว่างเวลากลางวันและไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED กันชนหน้ามีขนาดเล็กกลมกลืนกับส่วนหัวตัวถังด้านหน้า ตกแต่งด้วยสีดำเช่นเดียวกันกับคิ้วกันกระแทกซุ้มล้อ พร้อมด้านล่างติดตั้งแผงกันกระแทกสีเงิน

กระจกมองข้างขนาดใหญ่ปรับพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟส่องสว่างข้างตัวรถ ติดตั้งบันไดข้างอลูมิเนียมผิวกันลื่นสีดำรับกับสีคิ้วกันกระแทกซุ้มล้อ มาพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว ส่วนฝาท้ายเปิด-ปิดแบบผ่อนแรง โดยฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ใหม่ มีมิติความยาว 5,381 มม. กว้าง 2,028 มม. และสูง 1,922 มม. ด้วยรูปทรงที่เป็นเหลี่ยมทรงกล่องมากกว่าเดิม

ภายในออกแบบเป็นห้องเครื่องบินขับไล่

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ใหม่ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 5 คนเท่าเดิม เบาะใข้วัสดุคุณภาพสูง หุ้มด้วยหนังและหนังสังเคราะห์ดีไซน์เฉพาะรุ่น เบาะคู่หน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 10 ทิศทาง มาตรวัดเรือนไมล์เป็นดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชัน สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง เข้า-ออกจากตัว และ บน-ล่าง

จอกลางอินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัส ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา 12 นิ้วแนวตั้ง สั่งงานได้ด้วยเสียง รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth พร้อมระบบนำทาง และระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะติดตั้งระบบเสียง Bang & Olufsen พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ขุมพลังเบนซินดุดันยิ่งกว่า พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โฉมเดิมในเมืองไทย จะมีเพียงเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดียว แต่ในโฉมล่าสุดจะมีขุมพลังเบนซินให้เลือกแรงไปให้สุด เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบวี 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังอย่างราบรื่นผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายหน้า-หลัง

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จะเป็นแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ในช่วง 1,750-2,000 รอบ/นาที และส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายด้านหลังเช่นเดียวกัน แต่จะให้อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีกว่า

เพิ่มระบบการขับขี่ เพื่อสุนทรียศาสตร์การลุยแบบปอกกล้วยเข้าปาก

จากเดิมที่มีเพียง 6 โหมดการขับขี่ งานนี้ไดโนเสาร์แร็พเตอร์ได้เติมเขี้ยวเล็บเข้าไปอีก 1 โหมด คือ โหมด Normal สำหรับการขับขี่ปกติ, โหมด Sport เน้นสมรรถนะ, โหมด Slippery สำหรับทางลื่น, โหมด Mud/Ruts สำหรับลุยโคลน, โหมด Sand สำหรับลุยทราย, โหมด Baja สำหรับวิ่งผ่านอุปสรรคในย่านความเร็วสูง และโหมด Rock Crawl ที่เพิ่มขึ้นมา เพื่อฝ่าฟันไปบนเส้นทางที่เป็นแง่งหิน ส่วนระบบช่วงล่างจะปรับได้ 3 โหมด คือ Normal, Sport และ Off-Road

นอกจากดุดันในเรื่องสมรรถนะด้านต่างๆ แล้ว ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังจัดหนักจัดเต็มเรื่องระบบความปลอดภัยมาให้ ทั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบโทร.ออกฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ, ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control), ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (ROM) และเบรกมือไฟฟ้า เป็นต้น

รักพี่ เสียดายน้อง ชอบของใหม่ แต่ของเก่าตอบโจทย์กว่า

ในตลาดรถยนต์เมืองไทยนั้น รูปลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ในการเลือกหรือไม่เลือกตัดสินใจเป็นเจ้าของ ถึงฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โฉมล่าสุด จะโดดเด่นด้วยดีเอ็นเออฟโรดทรงกล่องแบบอเมริกันจ๋า พร้อมเพิ่มรายละเอียดในการตกแต่งต่างๆ รอบตัวอีกมากมาย แต่สำหรับรู้สึกความพลิ้วไหวและพร้อมจะโจนทะยานไปข้างหน้าเวลาหยุดนิ่ง กลับขาดคุณสมบัติในข้อนี้ไปต่างจากรุ่นก่อนหน้า

ส่วนเรื่องสมรรถนะรอบตัวนั้น ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ใหม่นั้นมีมากจนล้นเกินการใช้งานจริงหรือเปล่า? ทั้งเครื่องยนต์เบนซินพลังเหลือล้น ที่เผลอกดคันเร่งเพลินจนเกินความเร็วที่กำหนด หรือโหมดการขับขี่อันมากมายเกินไป จนแทบไม่ได้ใช้งานครบทั้งหมด ส่งผลให้บทสรุปมาตกอยู่ที่ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โฉมก่อนหน้าไหม?

ใครอยากได้รถกระบะแต่งดุไม่เกรงใจใคร รถ Ford Ranger มือสองของ CARS24 มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น ทุกคันผ่านการตรวจเช็กสภาพโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 จุด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นCARS24 ได้ที่ App Store และ Google Play สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 028 7428 ติดต่อได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.

อ่านเพิ่มเติม