รวบตึง 4 รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ราคาน่าคบ!

CARS24
CARS24
| อ่าน 1 นาที

หนึ่งในเซกเมนท์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับครอบครัวยุคใหม่คือ รถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ซึ่งในประเทศไทยมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้ง MPV (Multi-Purpose Vehicle), SUV (Sport Utility Vehicle) และ PPV (Pick-up Passenger Vehicle) โดยแต่ละรูปแบบนั้นจะแตกต่างตามลักษณะการใช้งาน ขนาดของรถ และเงื่อนไขด้านราคา รวมถึงออปชันต่างๆ ที่แต่ละค่ายใส่มาให้ด้วย

CARS24 ขอนำเสนอ “4 Kings of 7 Seats” หรือรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน และมีความน่าสนใจอย่างมากในตลาดรถมือสอง (ตามระดับราคา) เรียกว่าแต่ละรุ่นที่เราคัดสรรมาให้คุณเป็นอะไรที่น่าคบหาในด้านราคาและตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าเมื่อกลายมาเป็นรถมือสอง ส่วนจะมีรุ่นใดบ้าง? ติดตามกันได้เลย

งบราคา 1.5 ล้านบาทขึ้นไป

Toyota Alphard & Vellfire (รุ่นปี 2015- ปัจจุบัน)

จุดเด่น

ข้อควรคำนึง

- ขนาดตัวถังใหญ่ นั่งสบาย สะดวก

- ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกับ Camry อะไหล่หาง่าย

- ออปชั่นเยอะมาก 

- ราคาขายต่อดี ขาดทุนน้อย 

- ทนทาน ไม่จุกจิก

- ยังอยู่ในระยะรับประกันสำหรับไฮบริด

- รถรุ่นใหม่กำลังจะมาปี 2022

- ควรมีพนักงานขับรถคอยดูแล

- อัตราการกินน้ำมันค่อนข้างสิ้นเปลือง

- รถมักจะวิ่งเยอะ ระวังการปรับเปลี่ยนเลขไมล์

Toyota Alphard & Vellfire เป็นรถอเนกประสงค์แบบ MPV ที่ชื่อว่าหรูหราและมีฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ครบถ้วน รวมถึงขนาดของตัวรถที่ใหญ่ ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกนั่งสบาย ออปชั่นต่างๆ ล้นหลาม ทั้งเสริมความสะดวกสบายและความปลอดภัย จึงได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างว่า เป็นรถยอดนิยมของไฮโซ หรือผู้มีฐานะดีเลือกไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยปี 2022 ได้รับการคาดหมายว่า จะมีโฉมใหม่ออกมาทำตลาด และการเลือกซื้อรถมือสองในช่วงนี้ จึงน่าสนใจเพราะราคากำลังปรับฐานลงมาอยู่ระดับ 1.5-2 ล้านบาท  ส่วนรถใหม่ราคาทะลุ 3 ล้านบาทแล้ว โดยมีทางเลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรและ 2.5 ไฮบริด ฉะนั้นจึงเป็นจังหวะที่ดีในการเลือกหาไว้ใช้งานอย่างคุ้มค่า

ทั้งนี้หากงบไม่ถึงรุ่นปัจจุบัน สามารถเลือกโฉมก่อนหน้าที่จะมีราคาระหว่าง 4 แสนถึง 1.2 ล้านบาท ตามแต่สภาพและรุ่นย่อยต่างๆ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนงบน้อย

งบราคา8แสน- 1.5ล้านบาท

Toyota Fortuner (ปี 2015-ปัจจุบัน)

จุดเด่น

ข้อควรคำนึง

- ซื้อง่าย ขายคล่อง ราคามือสองดี

- ทนทาน อะไหล่หาง่าย ทุกอู่ซ่อมได้ 

- เครื่องยนต์แรง ขับสนุก 

- ภายในหรูหรา นั่งได้ 7 คนสบายๆ 

- ลุยทางออฟโรดและลุยน้ำท่วมได้ถึง 80 ซม. อย่างปลอดภัย

- ระบบช่วงล่างและเบรกควรปรับเสริมสมรรถนะ

- ตัวรถมักจะวิ่งเยอะ ระวังการปรับเปลี่ยนเลขไมล์

- เครื่องยนต์ส่วนมากจะถูกใช้งานมาอย่างหนัก 

-นั่งแล้วรู้สึกไม่นุ่มนวล สบาย เมื่อเทียบเท่ากับรถที่เป็นโครงสร้างตัวถังแบบขึ้นรูปชิ้นเดียว

รถยอดนิยมอันดับ 1 ของ PPV มีจุดเด่นครบถ้วนทุกด้านสำหรับ Toyota Fortuner ทำให้รถป้ายแดงมีราคาสูง แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นรถมือสองจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด เพราะราคาจะไม่แตกต่างกับคู่แข่งมากนัก ยิ่งหากเจอรถมือสองสภาพดี (ที่เจ้าของใช้งานไม่หนัก ไมล์น้อย สภาพนางฟ้า) ชื่อชั้นของโตโยต้าย่อมการันตีความทนทาน และการใช้งานในระยะยาวได้อย่างสบายใจที่สุด

ความโดดเด่นของรุ่นนี้คือดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกหรูหราทั้งภายนอกและภายใน บวกกับความแรงของเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้ความสนุกสนานในการขับมีทางเลือกขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และขนาด 2.8 ลิตร 204 แรงม้า แบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ขอเพียงเสริมสมรรถนะให้ระบบช่วงล่างใหม่ คุณจะมีความสุขในการใช้งาน

งบราคา 5 แสน – 7 แสนบาท

Suzuki Ertiga & XL7 (ปี2019-ปัจจุบัน)

จุดเด่น

ข้อควรคำนึง

- เครื่องยนต์ไม่แรงมาก เหมาะสำหรับครอบครัว

-  ซ่อมบำรุงรักษาง่าย ราคาขายต่อดี 

- ห้องโดยสารกว้างขวางที่สุด เมื่อเทียบกับรถในราคาใกล้เคียงกัน 

- อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ 

- ยังอยู่ในระยะการรับประกัน

- ออปชั่นน้อยกว่าคู่แข่งหลายรายการ

- เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เทคโนโลยีเดิม

- ตัวรถประกอบจากประเทศอินโดนีเซีย

- ศูนย์บริการยังไม่เยอะเท่าแบรนด์เจ้าตลาด

Suzuki Ertiga&XL7 ทั้งสองรุ่นนี้ถือว่าเป็นรถรุ่นเดียวกัน โดย XL7 เป็นเวอร์ชั่นยกสูง เพื่อให้มีความเป็น SUV มากขึ้น ส่วนเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังเหมือนกันทุกอย่างกับ Ertiga ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และด้วยการที่มีออปชั่นและลูกเล่นไม่เยอะมาก ทำให้ซ่อมบำรุงง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน

จุดเด่นที่สุดคงเป็นเรื่องของขนาดตัวถังที่สูงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายเวลานั่งโดยสาร ตัวรถยังมีความสดใหม่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน อยู่ในระยะเวลาการรับประกันของผู้ผลิตด้วย ประกอบกับราคาค่าตัวที่ย่อมเยาว์ที่สุดในรถประเภทนี้ จึงทำให้ Ertiga และXL7 ตอบโจทย์ความคุ้มค่าน่าคบหา  

งบราคาต่ำกว่า 4 แสนบาท

Mitsubishi SpaceWagon (ปี 2005-2011)

จุดเด่น

ข้อควรคำนึง

- ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะพับได้หลายรูปแบบ

- ออปชั่นครบถ้วน จอทีวีหน้า-หลัง แอร์ 3 แถว

- ขับง่าย อัตราเร่งทันใจ 

- รถมือสองส่วนมาก ยังอยู่ในสภาพที่ดี 

- ศูนย์บริการแพร่หลาย ซ่อมไม่ยาก อะไหล่ค่อนข้างหาง่าย 

- ราคามือสองถูกมาก เมื่อเทียบกับรถป้ายแดง

- ราคาอะไหล่สูงกว่ารถญี่ปุ่นแบรนด์หลัก

- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงราว 7 กม./ ลิตร

- ครบระยะเวลาสำรองอะไหล่แล้ว

- อนาคตอะไหล่จะเริ่มหายากขึ้น

 - อะไหล่บางชิ้นเสื่อมสภาพง่ายเกินคาดหมาย 


Mitsubishi SpaceWagon มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่พอสมควร โดดเด่นในแง่ของอัตราเร่ง ขับสนุกเร่งแซงทันใจในทุกย่านความเร็ว แต่จะเสียเปรียบในเรื่องของอัตราการบริโภคน้ำมันที่ถือว่ากินดุเดือดกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในรถประเภทนี้

อย่างไรก็ตามด้วยราคาออกห้างป้ายแดง 1.6-1.7 ล้านบาท ทำให้เมื่อมาเป็นมือสองแล้วราคาหล่นลงมาอยู่ระดับ 2-4 แสนบาท ทำให้Mitsubishi SpaceWagon น่าสนใจที่สุดสำหรับคนงบน้อย แต่อยากได้รถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่งแท้ ๆ ซึ่งให้ทั้งความสบาย ออปชัน และระบบเสริมความปลอดภัยมากเพียงพอจะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกคุ้มเกินราคา หากเทียบกับแบบออปชันต่ออปชัน Mitsubishi SpaceWagon มือสองยังมีให้มากกว่ารถมือหนึ่งบางรุ่นอีกด้วย  

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ “4 Kings of 7 Seats” ที่เราคัดสรรตัวเด็ดที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับครอบครัวยุคใหม่ หากคุณมองหารถ 7 ที่นั่งคุณภาพดีเยี่ยม สภาพนางฟ้า ผ่านการตรวจเช็คสภาพกว่า 150 จุดโดยผู้เชี่ยวชาญ การันตีไมล์น้อย ไม่ชนหนัก ไม่น้ำท่วม และพร้อมให้คุณทดลองขับฟรี! บริการส่งรถถึงหน้าบ้าน! สะดวกสบายในการจัดไฟแนนซ์ หรือให้คำปรึกษาโดยทีมงานมืออาชีพที่คุณวางใจต้อง CARS24 เท่านั้น!

หนึ่งในเซกเมนท์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับครอบครัวยุคใหม่คือ รถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ซึ่งในประเทศไทยมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้ง MPV (Multi-Purpose Vehicle), SUV (Sport Utility Vehicle) และ PPV (Pick-up Passenger Vehicle) โดยแต่ละรูปแบบนั้นจะแตกต่างตามลักษณะการใช้งาน ขนาดของรถ และเงื่อนไขด้านราคา รวมถึงออปชันต่างๆ ที่แต่ละค่ายใส่มาให้ด้วย

CARS24 ขอนำเสนอ “4 Kings of 7 Seats” หรือรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน และมีความน่าสนใจอย่างมากในตลาดรถมือสอง (ตามระดับราคา) เรียกว่าแต่ละรุ่นที่เราคัดสรรมาให้คุณเป็นอะไรที่น่าคบหาในด้านราคาและตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าเมื่อกลายมาเป็นรถมือสอง ส่วนจะมีรุ่นใดบ้าง? ติดตามกันได้เลย

งบราคา 1.5 ล้านบาทขึ้นไป

Toyota Alphard & Vellfire (รุ่นปี 2015- ปัจจุบัน)

จุดเด่น

ข้อควรคำนึง

- ขนาดตัวถังใหญ่ นั่งสบาย สะดวก

- ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกับ Camry อะไหล่หาง่าย

- ออปชั่นเยอะมาก 

- ราคาขายต่อดี ขาดทุนน้อย 

- ทนทาน ไม่จุกจิก

- ยังอยู่ในระยะรับประกันสำหรับไฮบริด

- รถรุ่นใหม่กำลังจะมาปี 2022

- ควรมีพนักงานขับรถคอยดูแล

- อัตราการกินน้ำมันค่อนข้างสิ้นเปลือง

- รถมักจะวิ่งเยอะ ระวังการปรับเปลี่ยนเลขไมล์

Toyota Alphard & Vellfire เป็นรถอเนกประสงค์แบบ MPV ที่ชื่อว่าหรูหราและมีฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ครบถ้วน รวมถึงขนาดของตัวรถที่ใหญ่ ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกนั่งสบาย ออปชั่นต่างๆ ล้นหลาม ทั้งเสริมความสะดวกสบายและความปลอดภัย จึงได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างว่า เป็นรถยอดนิยมของไฮโซ หรือผู้มีฐานะดีเลือกไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยปี 2022 ได้รับการคาดหมายว่า จะมีโฉมใหม่ออกมาทำตลาด และการเลือกซื้อรถมือสองในช่วงนี้ จึงน่าสนใจเพราะราคากำลังปรับฐานลงมาอยู่ระดับ 1.5-2 ล้านบาท  ส่วนรถใหม่ราคาทะลุ 3 ล้านบาทแล้ว โดยมีทางเลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรและ 2.5 ไฮบริด ฉะนั้นจึงเป็นจังหวะที่ดีในการเลือกหาไว้ใช้งานอย่างคุ้มค่า

ทั้งนี้หากงบไม่ถึงรุ่นปัจจุบัน สามารถเลือกโฉมก่อนหน้าที่จะมีราคาระหว่าง 4 แสนถึง 1.2 ล้านบาท ตามแต่สภาพและรุ่นย่อยต่างๆ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนงบน้อย

งบราคา8แสน- 1.5ล้านบาท

Toyota Fortuner (ปี 2015-ปัจจุบัน)

จุดเด่น

ข้อควรคำนึง

- ซื้อง่าย ขายคล่อง ราคามือสองดี

- ทนทาน อะไหล่หาง่าย ทุกอู่ซ่อมได้ 

- เครื่องยนต์แรง ขับสนุก 

- ภายในหรูหรา นั่งได้ 7 คนสบายๆ 

- ลุยทางออฟโรดและลุยน้ำท่วมได้ถึง 80 ซม. อย่างปลอดภัย

- ระบบช่วงล่างและเบรกควรปรับเสริมสมรรถนะ

- ตัวรถมักจะวิ่งเยอะ ระวังการปรับเปลี่ยนเลขไมล์

- เครื่องยนต์ส่วนมากจะถูกใช้งานมาอย่างหนัก 

-นั่งแล้วรู้สึกไม่นุ่มนวล สบาย เมื่อเทียบเท่ากับรถที่เป็นโครงสร้างตัวถังแบบขึ้นรูปชิ้นเดียว

รถยอดนิยมอันดับ 1 ของ PPV มีจุดเด่นครบถ้วนทุกด้านสำหรับ Toyota Fortuner ทำให้รถป้ายแดงมีราคาสูง แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นรถมือสองจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด เพราะราคาจะไม่แตกต่างกับคู่แข่งมากนัก ยิ่งหากเจอรถมือสองสภาพดี (ที่เจ้าของใช้งานไม่หนัก ไมล์น้อย สภาพนางฟ้า) ชื่อชั้นของโตโยต้าย่อมการันตีความทนทาน และการใช้งานในระยะยาวได้อย่างสบายใจที่สุด

ความโดดเด่นของรุ่นนี้คือดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกหรูหราทั้งภายนอกและภายใน บวกกับความแรงของเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้ความสนุกสนานในการขับมีทางเลือกขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และขนาด 2.8 ลิตร 204 แรงม้า แบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ขอเพียงเสริมสมรรถนะให้ระบบช่วงล่างใหม่ คุณจะมีความสุขในการใช้งาน

งบราคา 5 แสน – 7 แสนบาท

Suzuki Ertiga & XL7 (ปี2019-ปัจจุบัน)

จุดเด่น

ข้อควรคำนึง

- เครื่องยนต์ไม่แรงมาก เหมาะสำหรับครอบครัว

-  ซ่อมบำรุงรักษาง่าย ราคาขายต่อดี 

- ห้องโดยสารกว้างขวางที่สุด เมื่อเทียบกับรถในราคาใกล้เคียงกัน 

- อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ 

- ยังอยู่ในระยะการรับประกัน

- ออปชั่นน้อยกว่าคู่แข่งหลายรายการ

- เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เทคโนโลยีเดิม

- ตัวรถประกอบจากประเทศอินโดนีเซีย

- ศูนย์บริการยังไม่เยอะเท่าแบรนด์เจ้าตลาด

Suzuki Ertiga&XL7 ทั้งสองรุ่นนี้ถือว่าเป็นรถรุ่นเดียวกัน โดย XL7 เป็นเวอร์ชั่นยกสูง เพื่อให้มีความเป็น SUV มากขึ้น ส่วนเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังเหมือนกันทุกอย่างกับ Ertiga ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และด้วยการที่มีออปชั่นและลูกเล่นไม่เยอะมาก ทำให้ซ่อมบำรุงง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน

จุดเด่นที่สุดคงเป็นเรื่องของขนาดตัวถังที่สูงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายเวลานั่งโดยสาร ตัวรถยังมีความสดใหม่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน อยู่ในระยะเวลาการรับประกันของผู้ผลิตด้วย ประกอบกับราคาค่าตัวที่ย่อมเยาว์ที่สุดในรถประเภทนี้ จึงทำให้ Ertiga และXL7 ตอบโจทย์ความคุ้มค่าน่าคบหา  

งบราคาต่ำกว่า 4 แสนบาท

Mitsubishi SpaceWagon (ปี 2005-2011)

จุดเด่น

ข้อควรคำนึง

- ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะพับได้หลายรูปแบบ

- ออปชั่นครบถ้วน จอทีวีหน้า-หลัง แอร์ 3 แถว

- ขับง่าย อัตราเร่งทันใจ 

- รถมือสองส่วนมาก ยังอยู่ในสภาพที่ดี 

- ศูนย์บริการแพร่หลาย ซ่อมไม่ยาก อะไหล่ค่อนข้างหาง่าย 

- ราคามือสองถูกมาก เมื่อเทียบกับรถป้ายแดง

- ราคาอะไหล่สูงกว่ารถญี่ปุ่นแบรนด์หลัก

- อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงราว 7 กม./ ลิตร

- ครบระยะเวลาสำรองอะไหล่แล้ว

- อนาคตอะไหล่จะเริ่มหายากขึ้น

 - อะไหล่บางชิ้นเสื่อมสภาพง่ายเกินคาดหมาย 


Mitsubishi SpaceWagon มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่พอสมควร โดดเด่นในแง่ของอัตราเร่ง ขับสนุกเร่งแซงทันใจในทุกย่านความเร็ว แต่จะเสียเปรียบในเรื่องของอัตราการบริโภคน้ำมันที่ถือว่ากินดุเดือดกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในรถประเภทนี้

อย่างไรก็ตามด้วยราคาออกห้างป้ายแดง 1.6-1.7 ล้านบาท ทำให้เมื่อมาเป็นมือสองแล้วราคาหล่นลงมาอยู่ระดับ 2-4 แสนบาท ทำให้Mitsubishi SpaceWagon น่าสนใจที่สุดสำหรับคนงบน้อย แต่อยากได้รถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่งแท้ ๆ ซึ่งให้ทั้งความสบาย ออปชัน และระบบเสริมความปลอดภัยมากเพียงพอจะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกคุ้มเกินราคา หากเทียบกับแบบออปชันต่ออปชัน Mitsubishi SpaceWagon มือสองยังมีให้มากกว่ารถมือหนึ่งบางรุ่นอีกด้วย  

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ “4 Kings of 7 Seats” ที่เราคัดสรรตัวเด็ดที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับครอบครัวยุคใหม่ หากคุณมองหารถ 7 ที่นั่งคุณภาพดีเยี่ยม สภาพนางฟ้า ผ่านการตรวจเช็คสภาพกว่า 150 จุดโดยผู้เชี่ยวชาญ การันตีไมล์น้อย ไม่ชนหนัก ไม่น้ำท่วม และพร้อมให้คุณทดลองขับฟรี! บริการส่งรถถึงหน้าบ้าน! สะดวกสบายในการจัดไฟแนนซ์ หรือให้คำปรึกษาโดยทีมงานมืออาชีพที่คุณวางใจต้อง CARS24 เท่านั้น!

อ่านเพิ่มเติม